มหันตภัยร้าย สโตรก โรคหลอดเลือดในสมอง 1 ใน 3 โรคร้ายที่คนไทยกำลังเผชิญ

“สโตรก” หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็น 1 ใน 3 โรคร้ายที่คนไทยกำลังเผชิญ โดยสถิติที่ผ่านมาเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด รองจากโรคมะเร็งและโรคหัวใจ เนื่องจากอาการของโรคนั้นรุนแรง เฉียบพลัน ส่งผลให้เป็นโรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาตทันที และการรักษาก็ทำได้เพียงประคับประคองเท่านั้น

ข้อมูลจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ระบุว่า เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทั่วประเทศทั้งสิ้น 227,848 คน หรือทุกๆ 1 แสนคน จะมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 354 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นคน และอัตราการตายต่อ 1 แสนคน อยู่ที่ 31 คน ซึ่งนับว่าเพิ่มสูงขึ้นมากจากเมื่อปี 2550 ที่อัตราการตายต่อ 1 แสนคน อยู่ที่ 20 คนเท่านั้น

นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าให้ฟังถึงสถานการณ์โรคหลอดเลือดสมองว่า ต่อจากนี้จะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ตามจำนวนผู้สูงอายุบ้านเรา เพราะต้นเหตุของโรคส่วนใหญ่จะเกิดในผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไป และมากขึ้นในช่วงวัยหลังเกษียณ ส่งผลกระทบอย่างหนัก กลายเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจของผู้ที่อยู่รอบข้างด้วย เพราะค่าดูแลรักษาผู้ป่วยค่อนข้างสูง และทำได้เพียงประคับประคองเท่านั้น

ทั้งนี้ โรคหลอดเลือดสมอง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 
 โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เช่น จากความดันในเลือดสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การเกิดลิ่มเลือด และภาวะผิดปกติของเลือด เช่น เลือดแข็งตัวง่าย หรือเลือดข้นเกินไป ก็อาจทำให้หลอดเลือดสมองตีบได้ 
 โรคหลอดเลือดสมองแตก ที่ส่วนใหญ่เกิดจากผู้ที่มีความดันในเลือดสูงอยู่แล้ว เมื่อจังหวะเวลาเหมาะก็เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกได้ทันที

คุณหมอ บอกว่า กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง หรือมีความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง ส่วนผู้ที่อ้วน สูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว จะพบได้มาก

“คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือมีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการสูบบุหรี่ หรือดื่มสุรา รวมถึงให้ออกกำลังกายบ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการ เพราะหากเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าไม่คุ้มกัน” นพ.สมบัติ เล่าให้ฟัง

หากพบอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง หรือพูดไม่ชัด พูดไม่ออก หรือพูดไม่ได้ศัพท์ นั่นคือสัญญาณว่าคุณมีปัญหาหลอดเลือดสมองแล้ว โดยอาการของโรคนี้ หากเกิดขึ้นหนักเข้า ก็อาจทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต หรืออาจทำให้เสียชีวิตได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที

“เมื่อพบสัญญาณทั้งหมดให้รีบนำคนไข้ไปพบแพทย์ทันที เพราะโรคนี้หากช้าไปช้าเพียงไม่กี่นาที ก็อาจทำให้ผู้ป่วยอาการหนักขึ้น หรืออาจทำให้เสียชิวิตได้ แต่หากไปถึงแพทย์เร็ว วิวัฒนาการทางการแพทย์สมัยนี้อย่างยาละลายลิ่มเลือด ก็สามารถลดผลข้างเคียง ที่อาจทำให้คนไข้ที่มีความเสี่ยงพิการหรืออัมพาต หายเป็นปกติได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากสังเกตอาการได้และรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ก็สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ในที่สุด” คุณหมอสมบัติ ระบุ

ข้อมูล : สุภชาติ เล็บนาค โพสต์ทูเดย์ 31 สิงหาคม 2556
ภาพประกอบที่ 2 : โพสต์ทูเดย์
photo credit : p.joongang.co.kr (photo is not related to the article)