เกาหลีใต้อนุมัติโปรเจค "หอคอยล่องหน" แห่งแรกในโลก

 ทางการเกาหลีใต้ก็ออกใบอนุญาติให้ บริษัท จีดีเอส อาร์คิเท็คส์ ดำเนินการก่อสร้างหอคอยล่องหนแห่งแรกในโลก ภายใต้ชื่อ ”ทาวเวอร์ อินฟินิตี้” ซึ่งจะมีความสูงถึง 450 เมตร จ่อขึ้นแท่น 1 ใน 10 สิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในโลก ที่สามารถอวดโฉมหรือหายวับไปได้ในชั่วพริบตา

และเมื่อการก่อสร้าง”ทาวเวอร์ อินฟินิตี้” แล้วเสร็จ อาคารแห่งนี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเกาหลีใต้ โดยตามแผนมันจะเป็นอาคารหลักของโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเขตชองนาของเมืองอินชอน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกราว 30 กม. และห่างจากสนามบินนานาชาติอินชอนเพียง 15 กม.

หอคอยดังกล่าวชนะการประกวดออกแบบในระดับนานาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 2008 ออกแบบโดยบริษัท “จีดีเอส อาร์คิเทคส์” เจ้าของโครงการคือ “โคเรีย แลนด์ แอนด์ เฮ้าซิ่ง คอร์ปอเรชั่น” ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลที่มีหน้าที่พัฒนาที่ดิน เคหะชุมชน และอาคารสาธารณะ สาเหตุที่เลือกผุดโปรเจ็ค “หอคอยล่องหนแห่งแรกในโลก” ก็เพื่อเป็นการประกาศศักดาและแสดงนวัตกรรมอันโดดเด่นทางด้านเทคโนโลยีของเกาหลีให้เป็นที่ประจักษ์และกล่าวขานไปทั่วโลก ผ่านทางการนำเสนอหอคอยรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่น แปลกใหม่ ไม่ซ้ำที่ใด

“ทาวเวอร์ อินฟินิตี้” มีความโดดเด่นและแตกต่างจากหอคอยทั่วโดยไป เพราะตั้งอยู่ภายในโครงสร้างกระจก แม้จะมีความสูงถึง 450 เมตร และมีจุดชมวิวสูงเป็นอันดับสามของโลกที่ระดับความสูง 392 เมตร แต่ความสูงไม่ใช่จุดขายของหอคอยแห่งนี้ หากเป็นเทคโนโลยีในการสร้างภาพลวงตาด้วยระบบดิจิตอลอันล้ำสมัย โดยจะติดตั้งกล้องไว้ที่ผนังโครงสร้างกระจกด้านนอกทั้ง 6 มุม บนความสูงที่แตกต่างกัน 3 ระดับเพื่อจับภาพรอบด้านแบบเรียลไทม์ภายใต้ระบบดิจิตอล ภาพทั้งหมดที่ได้จะถูกปรับมาตราส่วนและทิศทาง ก่อนนำมาผสานรวมกันเพื่อให้ได้ภาพที่กลมกลืนและเป็นหนึ่งเดียวกับวิวรอบด้านแบบไร้รอยต่อ หลังจากนั้นภาพทั้งหมดจะถูกฉายลงบนจอแอลอีดีบริเวณผนังด้านหน้าซึ่งแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน (บน-กลาง-ล่าง) แต่ละส่วนประกอบด้วยแผงหลอดไฟแอลอีดี 500 แถว ซึ่งจะแสดงภาพดิจิตอลแบบเป็นอิสระต่อกัน

 

 

ด้วยเหตุนี้ เวลามองไปที่หอคอยดังกล่าวขณะอยู่ในโหมด ‘ล่องหน’ เราจึงเห็นภาพที่ถูกส่งมาจากกล้องทางด้านหลังซึ่งกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมจนดูเหมือนว่าหอคอยตรงหน้าหายไป แต่ลูกเล่นของหอคอยที่ว่ายังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะผู้ควบคุมสามารถปรับระดับการล่องหนของหอคอยได้ (เช่น หายแบบลางเลือน หรือหายไปเลย) นอกจากสร้างภาพลวงตาแล้ว จอแอลอีดีของหอคอยยังสามารถแสดงแสงสี ถ่ายทอดรายการสำคัญหรือกิจกรรมพิเศษต่างๆ ทั้งยังใช้เป็นสื่อโฆษณาได้ด้วย ประโยชน์อีกอย่างของการสร้างหอคอยล่องคนก็คือ “ไม่บดบังทัศนียภาพ” ถึงแม้จะตั้งตระหง่านด้วยความสูงถึง 450 เมตรก็ตาม

หลังก่อสร้างแล้วเสร็จ “ทาวเวอร์ อินฟินิตี้” จะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางย่านธุรกิจ โดยจะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมและนันทนาการ ภายในประกอบด้วย จุดชมวิวหลากหลายจุด, โรงภาพยนตร์ 4D, รถไฟเหาะ, สวนน้ำ, สถานที่จัดงานแต่งงาน ตลอดจนร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น และเนื่องจากหอคอยแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติอินชอน ผู้โดยสารจึงต้องคอยลุ้นว่าจะเห็นหอคอยดังกล่าวจากบนเครื่องบินหรือไม่

 



แม้จะยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า “ทาวเวอร์ อินฟินิตี้” มีกำหนดแล้วเสร็จเมื่อไหร่ แต่หอคอยแห่งนี้ก็เตรียมขึ้นแท่นหอคอยสูงอันดับ 6 ของโลกแทนที่หอคอย “มิหลาด ทาวเวอร์ (Milad Tower)” ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ซึ่งมีความสูง 435 เมตร และยังจะได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 สิ่งปลูกสร้าง (นับรวมหอคอยและตึก) สูงที่สุดในโลกอีกด้วย (หากไม่มีตึกหรือหอคอยใดทุบสถิติแซงหน้าเสียก่อน)

 



Credit: http://variety.thaiza.com
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...