วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุริยา โพธิ์ชาเนตร พงส.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี รับแจ้งจากพนักงานของธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองหาน ว่ามีคนร้าย 1 คนบุกเข้าไปชิงเงินสดที่หน้าเคาน์เตอร์และในลิ้นชักหลบหนีไป พร้อมเงินสดที่ได้ไปประมาณ 5 แสนกว่าบาท หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนัึ้นได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.ทศพร จิเนราวัต ผกก. พ.ต.ท.สรายุทธ ฉ่ำผิว รองผกก. สว. ( สส.) พ.ต.ท.คณิน พงศ์ธำรง รองผกก.(ป) และกำลังจำนวนหนึ่ง
เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ธนาคารรอให้ปากคำด้วยอาการตื่นตระหนก สอบถามน.ส.ทิพวรรณ นันนี อายุ 25 ปี ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนและนายเดชนคร ธรรมทร อายุ 27 ปี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ จากนั้นมีลูกค้าเข้ามาโอนเงิน ขณะที่พวกตนกำลังทำรายการอยู่นั้น มีคนร้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ เสื้อแจ็ตเก็ต กางเกงขายาวสีเขียว สวมถุงมือ เข้ามาพร้อมกับบอกว่า ให้อยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว จากนั้นได้หยิบเอาเงินที่ลูกค้านำฝากที่หน้าเคาน์เตอร์ และเข้าไปล้วงหยิบเงินในลิ้นชัก 1 และ 2 ไม่ทราบจำนวน จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไป
น.ส.ภัคจีรา มุกดาม่วง กล่าวว่า ตนเป็นน้องสาวผู้จัดการร้านภัทรก่อสร้าง ในเขตเทศบาลตำบลหนองหาน วันเกิดเหตุ ได้รับมอบหมายจากพี่สาวให้นำเงินสด 3 แสน 8 หมื่นบาท เพื่อโอนเข้าบริษัท ปูนตรานกอินทรีย์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกำลังทำรายการอยู่นั้น ประมาณ 10 นาที มีคนร้ายสวมหมวกกันน็อกใบใหญ่มีลาย สวมเสื้อแจ็ตเก็ตสีดำ สะพายกระเป๋าเข้ามาในธนาคาร พร้อมกับบอกว่าให้อยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว มีเจ้าหน้าที่ธนาคารกดสัญญาณเตือนภัย คนร้ายบอกว่าไม่ต้องกด จากนั้นหยิบเอาเงินสดที่เคาน์เตอร์จำนวน 3 แสน 8 หมื่นบาท และอ้อมไปหยิบเงินสดในลิ้นชัก 1 และลิ้นชัก 2 ใส่ในกระเป๋าสะพาย แล้ววิ่งหลบหนีไปที่ข้างๆ ธนาคาร ซึ่งธนาคารดังกล่าวมีกล้องวงจรปิด จำนวน 4 ตัว
ต่อมาพล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก ภจว.อุดรธานี พร้อมด้วยพ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมพู รอง ผบก.ภจว.อุดรธานี รีบรุดมาตรวจสอบสถานที่เกิด
พล.ต.ต.บุญลือ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผกก.สภ.หนองหาน ทราบว่าคนร้ายมีด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งเป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งหน้าธนาคาร จากนั้นไปจอดรอที่บริเวณด้านหลังธนาคาร เมื่อคนร้ายได้เงินไปออกไปจากธนาคารแล้ววิ่งไปที่รถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนีไป น่าจะเป็นมืออาชีพ มีการเตรียมตัว และเตรียมการมาอย่างดี โดยใส่หมวกกันน็อกและถุงมือ ซึ่งเรื่องนี้จะได้ประชุมเพื่อกำชับให้ตำรวจรีบเร่งหาตัวคนร้าย โดยดูจากกล้องวงจรปิดและร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียง