ศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยึดเต่าดำแฮมิลตัลกว่า 200 ตัว ลักลอบนำเข้าไทย

วันที่ 22 ก.ย. ที่สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายไพศาล ชื่นจิตร ผอ.สำนักสืบสวนและปราบปราม นายคณิท อิศดุล ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร นายธนวรรธน์ กุลกานต์สวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงผลการยึดเต่าดำแฮมมิลตันหรือเต่าบึงดำลายจุด คละขนาด จำนวนรวม 220 ตัว น้ำหนักรวม 105 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท 

นายไพศาล ชื่นจิตร ผอ.สำนักสืบสวนและปราบปราม กล่าวว่า ตามที่ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด และ กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้มงวดเป็นพิเศษ ในการสกัดกั้นการลักลอบหนีศุลกากร และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จนกระทั่งวันนี้( 22 กันยายน) เวลาประมาณ 07.45น. ขณะที่ เจ้าหน้าที่ศุลกากร ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารฯ ปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร พบกระเป๋าสัมภาระต้องสงสัย จำนวน 3 ใบ วางอยู่บริเวณใกล้เคียงประตู 6 ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เมื่อสอบถามแล้วไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้นำกระเป๋าสัมภาระดังกล่าวมาตรวจโดยละเอียด ก็ค้นพบ สัตว์มีชีวิตประเภท เต่าดำแฮมมิลตัน หรือเต่าบึงดำลายจุด คละขนาด ถูกเทปกาวสีน้ำตาลพันรอบตัวหรือช่องว่างเฉพาะหัว รวม 220 ตัว อยู่ในกระเป๋ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ทั้ง 3 ใบ และเมื่อตรวจสอบที่กระเป๋าไม่มีป้ายชื่อระบุ 

ผอ.สำนักสืบสวนและปราบปราม กล่าวเพิ่มเติมว่า เต่าดำสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นเต่าน้ำจืด มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศ บังคลาเทศ คาดว่าจะนำเข้ามาขายเพื่อความสวยงาม โดยมีราคาขายอยู่ที่ตัวละ1,000– 10,000 บาท 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฯจึงยึดเต่าทั้งหมดไว้เป็นของกลาง เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีรายชื่อห้ามซื้อขายในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชที่ใกล้สูญพันธุ์(CITES) ก่อนส่งมอบให้กับด่านตรวจสัตว์ป่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำไปฟื้นฟูต่อ ส่วนเจ้าของกระเป๋าทั้ง3ใบอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16,17 แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับ 9)พ.ศ. 2482 และความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535การนำเข้าต้องขออนุญาตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามมาตรา 23,24 ของ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...