อาชีพเดินเท้าขายของ ก็ไม่ต่างอะไรกับอาชีพอื่นๆ ที่ต้องการหารายได้ เพียงแต่ว่าอาชีพการเดินขายของนั้นต้องไปให้ถึงยังจุดหมาย เพื่อให้มีการขายเกิดขึ้น การเดินขายของนั้นต้องเข้าหาลูกค้า ไม่ใช่รอให้ลูกค้าเข้ามาหาเรา ไม่มีที่ประจำ ต้องเดินต่อไปถึงจะได้ขาย และต้องไปให้ถึงที่หมายถึงจะขายได้ “ พื้นที่ที่พ่อเดิน” จึงเปรียบเสมือนเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่จะสะกิดต่อมความคิดถึงของใครหลายๆ คนให้ฉุกคิดและนึกถึงพ่อของตัวเองขึ้นมา
พื้นที่ที่ว่าคือทางเดินอิสระในสังคมที่พ่อแม่ของแต่ละคนนั้นใช้แรงกายและแรงใจทำอยู่เพื่อหารายได้มาดูแลครอบครัว รวมทั้งตัวเราด้วยที่กำลังอยู่ในวัยของการที่จะเริ่มก้าวเดิน จะเดินตามพ่อ หรือจะขอแยกทาง ทางเดินนี้ไม่มีใครบังคับ แต่ความอดอยากและอยากมีนั้นมันสั่งให้กระตือรือล้นที่จะทำตามกำลังของตัวเองที่จะมุ่งไปให้ได้ จะมีใครสักกี่คนนั้นรู้บ้างว่าพ่อแม่เราเหนื่อยยากแค่ไหน หรือรู้เพียงแค่ว่าพ่อเราทำนี่นะ ทำงานนี่นะ ค้าขายนี่นะ และทำนั่นทำนี่อยู่แบบนี้นะแล้วเราคิดที่จะลองสัมผัสและเดินตามรอยพ่อเราหรือไม่!
พ่อเหนื่อย พ่อก็ทำเพื่อลูก พ่อเหนื่อยพ่อก็ทำเพื่อครอบครัว เดินตะลอนไปไปเรื่อยๆ จนกว่าของที่รับมาขายนั้นจะหมด เพื่อแลกกับเงินค่าจ้างในแต่ละวัน ก็เพื่อพวกเราและครอบครัวนั่นแหละ วันใดวันหนึ่งถ้าเราได้มีโอกาสมาเห็นพ่อเราทำงาน แล้วเราจะรู้ซึ้งที่สุดในชีวิต เมื่อเห็นหยาดเหงื่อปนแรงกายที่อ่อนล้าของพ่อเรานั้นหยดลงพื้น และร่างกายพ่อของเรานั้นก็เริ่มอ่อนล้าลงเรื่อยๆ ตามวัฏจักร
** ภาคต่อ… แมวมอง มุกดาหาร