ทะเลสาบเดดซี ฝั่งอิสราเอลแห้งเหือดจนเห็นรอยแตกขนาดยักษ์ที่ก้นทะเล หลังเกิดสถานการณ์หลุมยุบเพิ่มขึ้นในอิสราเอล ราววันละ 1 หลุม ทำให้น้ำทะเลแห้งลงปีละ 1 เมตร
วันที่ 18 กันยายน 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า หลุมยุบบริเวณทะเลสาบเดดซี ฝั่งประเทศอิสราเอล เป็นผลให้ทะเลสาบเดดซี แห้งเหือดจนเห็นรอยแตกขนาดยักษ์บริเวณก้นทะเลที่ว่างเปล่า โดยปริมาณหลุบยุบที่เพิ่มขึ้นน่าจะส่งผลโดยตรงต่อการที่น้ำในเดดซีแห่งนี้แห้งเหือดลงไปราวปีละ 1 เมตร
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หลุมยุบเหล่านี้เกิดขึ้นราววันละ 1 หลุม ขณะที่นิตยสารโมเมนท์ ได้คาดว่า ขณะนี้ทะเลสาบเดดซีในฝั่งประเทศอิสราเอลนั้นน่าจะมีหลุบยุบเกิดขึ้นแล้วถึง 3,000 หลุมแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในปี 1990 นักสามารถนับหลุมยุบได้เพียงแค่ 40 หลุมเท่านั้น
สำหรับการเกิดหลุมยุบนั้น มักจะก่อให้เกิดช่องว่างในลักษณะเหมือนรูปทรงของชาม บริเวณใต้พื้นดิน จนก่อให้เกิดการยุบตัวของดินในบริเวณนั้น และสำหรับการยุบตัวในทะเลสาบเดดซีซึ่งมีประมาณเกลือมากกว่ามหาสมุทรแอตแลนติกถึง 10 เท่านี้ เป็นผลจากการที่น้ำจืดทำปฏิกิริยาละลายเกลือที่ฝังอยู่ในระดับใต้ผิวดิน จนก่อให้เกิดช่องว่างขึ้น นำไปสู่การยุบตัวของผิวดินด้านบนในที่สุด
ขณะที่ศาสตราจารย์ อาลอน ทัล จากภาควิชานิเวศวิทยาทะเลทราย ในมหาวทยาลัยเบนกูเรียน ชีว่าการจะช่วยต่อชีวิตของทะเลเดดซีได้นั้น จำจะต้องใช้มาตรการพิเศษ และต้องใช้ความระมัดระวัง มีวิธีการที่ชาญฉลาด และมีความร่วมมือกันในระดับภูมิภาคด้วย
ทั้งนี้ ทะเลสาบเดดซี นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเขตเวสต์แบงก์ ด้วยความเค็มของน้ำที่เค็มกว่าน้ำทะเลทั่วไปถึง 10 เท่า ทำให้คนลงไปลอยในน้ำได้อย่างสบายใจ ไม่มีจมนั่นเอง