หลังจากเปิดตัวและทดสอบในมาอยู่นาน ล่าสุดแอปเปิลได้ปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถอัพเดท iOS 7 ตัวเต็มได้อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป้นการอัพเดทโทรศัพท์พร้อมกัน ทั่วโลก มากที่สุด เลยก็ว่าได้ โดยใน iOS 7 นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงหน้าส่วนติดต่อผู้ใช้ไปจากเดิมแบบยกแผง พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ
สำหรับ iPhone ที่จะสามารภอัพเดทเป็น iOS 7 ได้นั้นจะต้องเป็น iPhone 4 ขึ้นไป ส่วน iPad นั้นก็ต้องไม่ต่ำกว่า iPad 2 ครับ (ดังรายละเอียดจากภาพด้านล่าง)
ตารางเปรียบเทียบว่าอุปกรณ์ต่างๆ รองรับฟีเจอร์ใดใน iOS 7 บ้าง
(ที่มา The Verge)
ใครที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้อยู่สามารถทำการอัพเดท iOS 7 ผ่าน Wi-Fi ได้ที่เมนู Setting > Gerneral > Software Update หรือจะผ่านโปรแกรม iTunesก็ได้ครับ
ios 7 มีอะไรใหม่บ้าง???
Review นี้จะเป็นสไตล์ผม คือเป็นแบบรายละเอียด, Tips ที่คนส่วนมากชอบผ่านไปซะมากกว่า
เหมาะสำหรับคนที่ดู Review ภาพรวมแล้วยังไม่รู้จะอัพทำไม ลองมาดู Review นี้ จะเห็นอะไรที่คุณไม่รู้ iOS 7 เป็นการอัพเดตแบบ All new design คือเปลี่ยน UI ทั้งหมด ครั้งแรกที่ผมดู แวปแรกเลย คือ มันไม่ Simple อีกต่อไปแล้ว ผมคิดโดยใช้มาตราฐานคนไม่ค่อยรู้เรื่องคอมพ์เป็นหลัก คิดว่าเวลาแม่มาใช้ แม่คงงงกว่าเดิมแน่นอน (แม่ผมใช้มาตั้งแต่ iOS 3)
ถ้าอ่านจบแล้วและชอบบทความ ช่วยกดไปที่ลิ้งค์นี้ (ลิ้งค์ต้นฉบับจาก Blog ผมเอง)http://pongpans-s.blogspot.com/2013/09/ios-7-reviews-25-cool-minor-upgrades.html เป็นกำลังใจให้คนรีวิวด้วยนะฮะ ขอบคุณครับ
ไม่รอช้า มาดูกันเลยครับ ตัวที่เอามา Review เป็น iOS 7 Gold Master ความหมายคือตัวสุดท้ายแล้วนั่นเอง เนื่องจากเปลี่ยนหน้าตาใหม่หมด
1. Wallpaper
iOS 7 ได้เพิ่มลูกเล่นใหม่คือ Panoramic Wallpaper คือสามารถขยับ ซ้าย ขวา ขึ้น ลง ไปทั่วทุกด้านได้ ก็เพลินๆดี แต่ผมว่ามันได้น้อยไปหน่อยเลยมองไม่ค่อยออก ก่อนหน้านี้ ลูกเล่นนี้สามารถเลื่อน Wallpaper แบบ Panorama ได้ยาวมากกก แต่ถูกเอาออกใน beta หลังๆ เนื่องจากกินแบตมากเกินไป
2. Live icon (Clock App)
สังเกตดูจะเห็นว่าไอคอนนาฬิกาบนหน้าจอ เข็มวินาทีขยับ และบอกเวลาจริงบนไอคอนเลย (เจลเบรคทำได้ไปนานละ) นี่เป็นสัญญาณว่า Apple ปล่อยในนักพัฒนาแสดงภาพเครลื่อนไหวใน icon ได้แล้ว ในอนาคต อาจจะได้เห็นอะไรเก๋ๆ จาก icon ก็เป็นได้
3. Keyboard, Font
รู้สึกแปลกไปคนเดียวรึป่าวไม่รู้ที่ font บน Keyboard มันคนละ font กับที่แสดงผลจากการพิมพ์ ตอนนี้สามารถพิมพ์ สระลอยเฉยๆ ได้แล้ว โดยมีเครื่องหมาย O อยู่ด้านล่าง นอกจากนี้ iOS 7 ใช้ font ในแต่ละส่วนต่างกัน ส่วนตัวแล้ว รู้สึกงานไม่เนี๊ยบ ภาพรวมทั่วไปรู้สึกว่าขนาด Font ใหญ่ขึ้น สบายตามากขึ้น (ใน LINE, WhatsApp เห็นชัดเลย)
4. App Update
มี feature ใหม่ ให้โหลด App ที่มีการ Update ให้อัตโนมัติ ทำให้สะดวกมากขึ้น และถ้ามีการอัพเดต จะมีจุดสีฟ้าอยู่ตรงหน้าชื่อแอพ
5. Passbook
ตอนนี้สามารถอ่าน QR Code ได้แล้ว จะทำให้สามารถอ่านค่าบัตรต่างๆ ได้ง่ายขึ้น (แต่ในไทยยังใช้ยากอยู่ดี) ลองเอาไปอ่าน QR Code ทั่วไปผลคือ "ไม่ได้" จ้า
6. Compass
นอกจากจะใช้เป็นเข็มทิศแล้ว ยังสามารถใช้ iPhone วางบนพื้นผิว เพื่อหาความเอียงได้ด้วย ทั้งวางแบนราบ และวางตั้ง/นอน แจ่มมากๆ
7. Maps Navigator
ไอคอนต่างๆในแผนที่เปลี่ยนไป ดูเป็น Flash icon มากขึ้น นอกจากนี้ มีโหมดกลางวัน กลางคืนแล้วนะ อันนี้เป็นอีกตัวอย่างนึงที่เห็นชัดเลยว่า Apple ใช้ font ต่างกันบนหน้าจอเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีการปรับการนำทางให้ชัดเจนขึ้น แต่รู้สึกว่าแนวนอนมันเสียพื้นที่ไปครึ่งจอเลย และมีการอัพเดตให้สามารถหมุนซ้ายขวา ซูมเข้า-ออกได้ในหน้านำทาง(ซะที) ของ Google Maps เลื่อนไปได้ทุกทิศเลยนะ
8. Siri (เสียงไทย)
เสียง Siri เปลี่ยนไป มีสำเนียงเวลาอ่านตัวหนังสืออังกฤษ มีสำเนียงปนมากขึ้น (คิดไปเองรึป่าวไม่รู้)
9. Phone
สามารถ Block สายได้แล้วนะคร้าบบบบบ SMS ก็ได้ด้วยนะ จะเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มได้หมด
10. Facetime
สามารถโทรแบบไม่เป็นหน้าได้แล้ว พูดง่ายๆคือ ใช้แทนโทรศัพท์, Skype ได้นั่นเอง ลองแล้วเสียงเหมือนโทรศัพท์ทั่วไปเลย สบายๆ แม้จะเป็น EDGE
11. Notification
เลื่อนจอจากด้านบนลงมา จะมีบอกตารางกิจกรรมบนปฏิทิน, วันเกิด, เตือนความจำ ที่เราบันทึกไว้ด้วย ส่วนตัวแล้วคิดว่าอันนี้มีประโยชน์มาก ทำให้เราเห็นภาพรวมว่าวันนี้ต้องทำอะไรได้ง่าย ในส่วนของ "เตือนความจำ" ก็สามารถทำเครื่องหมายว่าอันไหนทำแล้วจากตรงนี้ได้เลย สะดวกมาก สุดท้ายติดนิดนึง น่าจะเข้าโปรแกรมได้จากหน้านี้เลยด้วยนะ และหัวข้อ "ทั้งหมด" กับ "ไม่ได้รับ" ทำงานต่างกันยังไง ใครรู้ช่วยบอกที
12. Photos
มีการแบ่งหมวดหมู่เป็น วัน เวลา สถานที่ ให้ดูง่าย(?)กว่าเดิม
13. App Near Me
ยังหาประโยชน์ไม่ค่อยได้ แต่ชอบกดไว้ดูตอนไม่รู้จะโหลดอะไร ฮ่าๆ
14. Airdrop
อันนี้ไปถามคุณ @themacci มาว่าเป็นอย่างไรบ้าง สรุปคือใช้ระหว่าง iOS ได้ แต่ยังใช้กับ OSX ไม่ได้ แม้ว่าจะมีคำสั่ง Airdrop เหมือนกัน แปลกดี แต่การใช้งานย้ายข้อมูลถือว่าทำได้ดี
15. Cover Tiles
จำได้ว่าตอนเปิดตัว iPhone ครั้งแรก ทุกคนตื่นเต้น กับการแสดงผลแบบ Cover Flow มาก ตอนนี้ถูกตัดออกแล้ว การเป็นแบบ Tile แทน จะว่าดีก็ดีนะ แต่มันเห็นรูปเล็กไปหน่อย (ถ้าใครไม่เคยใช้ ลองไปที่ Music แล้วเอียงเครื่องเป็นแนวนอน)
16. Cellular Data
Setting > Cellular Data ตอนนี้สามารถเข้าไปดู, เปิด/ปิด ประเภทการใช้อินเตอร์เนทเป็นรายโปรแกรมได้ สะดวกมากๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบสังเกตการใช้งานอินเตอร์เนทของตัวเอง
17. Shared Photo Steam
ตอนนี้เราสามารถแชร์รูปผ่าน Photosteam แล้วให้คนที่ subscribe เราร่วมแชร์รูปด้วยได้แล้ว เหมือน flickr เจ๋งเลย
18. Newsstand
สามารถจับไอคอน Newstand ยัดลงไปใน Folder ได้แล้วนะครับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มันถือว่าเป็น Folder อยู่แล้ว
19. iTunes Radio
เสียใจด้วยนะครับสำหรับ Thai iTunes Account เนื่องจากบริการนี้ใช้ได้เฉพาะ US Account เท่านั้น
ผมลองใช้ US Account เข้าไปใช้ดูแล้ว จะว่าไปมันเหมือน Genius บน iTunes เลยครับ ต่างกันตรงที่ iTunes Radio เพลงมันเป็นเพลงอะไรก็ได้จากบน Stores แต่ Genius ต้องเป็นเพลงที่เรามีเท่านั้น และบน Radio ไม่สามารถย้อนไปเล่นเพลงที่แล้วได้ ต้องกลับไปเปิดใน History เท่านั้น โดยรวมแล้ว แจ่มมากครับ
20. Burst Shot
เวอร์ชั่นนี้สามารถถ่ายรูปรัวๆ ได้แล้วนะครับ โดยการกดปุ่มถ่ายรูปค้างไว้แล้วค่อยมาเลือกทีหลัง
21. Weather
แสดงอนิเมชั่นของอากาศในแต่ละสถานที่ เข้าใจง่ายดีพอกดเข้าไปในแต่ละท้องที่ก็จะแสดงรายละเอียดเป็น รายวัน, รายชั่วโมง เหมือนกันของเดิม
22. Safari
ผมเป็นคนนึงที่ชอบเล่นเนทบน iPhone ตอนนี้สามารถเปิดมากกว่า 8 หน้าได้แล้ว Bookmark ก็ลดความสับสนเนื่องจากการ Sync กับ iCloud เนื่องจากของเก่าจะมีแยกอีกหัวข้อนึง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเหมือนกันเป๊ะแล้ว ตอนนี้มีส่วนของ @ ซึ่งเป็นลิ้งค์ที่มาจาก Twitter ทำให้ สามารถใช้นิ้วปาดเพื่อปิดหน้าได้ สะดวกดีเหมือนกัน เล่นมือเดียวได้ ปุ่ม Reader หดไปเหลือนิดเดียวด้านซ้ายบน
23. Maps
มีโหมด Full Screen แสดงผลเต็มหน้าจอ แถมมีสเกลบอกด้วยตอนซูมเข้า-ออก มีข้อสังเกตเล็กน้อยว่าตอนนี้แผนที่ใน Maps แสดงสถานีรถไฟฟ้าครบแล้ว (ของเดิมขาดๆเกินๆ)
24. Control Center
ลากขึ้นมาจากขอบจอด้านล่าง จะสามารถตั้งค่าบางอย่างได้รวดเร็ว สะดวกขึ้น สามารถเปิดจากในแอพอื่นๆได้ทุกเวลา อีกหนึ่งสิ่งที่ผมคิดว่ามันทำให้ User ทั่วไป น่าจะมีทั้งชอบและไม่ชอบในความเยอะของมัน ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันดู "เยอะ" ผิดจากแนวทางของ Apple มาก (ออกแนว Android)
25. Mailbox
มี Categories ใหม่ของ Mailbox คือ ถึง/สำเนา, ไฟล์แนบ ฯลฯ ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น เหมาะสำหรับคนใช้เมล์บ่อยๆ หาง่ายขึ้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------
บทสรุป
ผมว่าครั้งนี้ Apple ทำการบ้านสำหรับ iOS มาเยอะมากกว่าทุกครั้ง และพยายามผสม iCloud ให้เข้ากับทุกระบบ (iOS, OSX,Web Application) ผมคงต้องบอกเหมือนครั้งที่ Review iOS 6 คือ คนที่บอกว่า Apple แพง, ไม่คุ้ม เป็นเพราะคนพวกนั้นไม่ได้เข้าถึงการใช้งานที่แท้จริงที่ทาง Apple เสนอให้ นี่ยังไม่รวมถึง iWork ที่จะแถมมาบน iDevice ใหม่ทุกเครื่องด้วย ใน iOS 7 Apple ได้พยายามทำสิ่งนี้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น คงจะรอลุ้นอีกครั้งตอนอยู่บน iPhone 5S
9/10 สำหรับความพยายามในการพลิกโฉมให้ของ Apple
บทความโดย