ชาวเน็ตแห่วิเคราะห์ ! หมอประจักษ์ อรุณทอง ในโฆษณา ทรูมูฟ เอช มีตัวตนจริงหรือแค่ตัวละครจากฟอร์เวิร์ดเมล
นายแพทย์ประจักษ์ อรุณทอง จากโฆษณาชุดการให้ของค่ายมือถือดังที่สร้างความซาบซึ้งให้คนทั้งโลก มีตัวตนจริงหรือไม่ หรือจะเป็นคนเดียวกันกับ นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร ที่ปรากฏเรื่องราวคล้ายกันในฟอร์เวิร์ดเมล
หลายคนคงได้ชมคลิปโฆษณาชุด การให้ คือการสื่อสารที่ดีที่สุด ของทรูมูฟ เอช ค่ายโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่กันบ้างแล้ว และคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ซาบซึ้งกินใจสุดๆ ทำให้หลายคนนึกสงสัยว่าบุคคลในโฆษณาชุดนี้มีตัวตนจริงหรือไม่? แล้วเหตุการณ์ในโฆษณาเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องแต่งจากจินตนาการกันแน่
ซึ่งในโลกออนไลน์ มีผู้มาตั้งกระทู้วิเคราะห์เช่นกัน และสรุปได้ว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงเรื่องสมมติที่แต่งขึ้นมา โดยหยิบเค้าโครงเรื่องมาจากฟอร์เวิร์ดฉบับหนึ่ง ที่มีการส่งต่อกันเมื่อหลายปีก่อน ที่เป็นเรื่องราวของการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน แต่ได้รับบางสิ่งตอบแทนราวปาฏิหาริย์ ซึ่งมีเรื่องราวไม่ต่างจากโฆษณาเลย…
โดยฟอร์เวิร์ดเมลฉบับนั้นเล่าว่า ตัวละครที่ชื่อ นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร ในวัยเด็กได้เคยพยายามขโมยยาไปรักษาแม่จนถูกเจ้าของร้านดุ แต่ นางสมพร ภู่จันทร์ ที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกสงสาร จึงมาช่วยจ่ายเงินให้ พร้อมกับยื่นส้มให้เด็กนำกลับไปทาน
จากนั้นเวลาผ่านมาอีก 20 ปี นางสมพรเกิดล้มป่วยด้วยอาการเนื้องอกในสมอง ต้องใช้เงินผ่าตัดถึง 5 แสนบาท ทำให้ทางครอบครัวกลุ้มใจมาก เพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปรักษา แต่สุดท้ายทางโรงพยาบาลกลับไม่คิดเงินค่ารักษาเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะคุณหมอผู้ผ่าตัดที่ชื่อ นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร ขอตอบแทนบุญคุณที่นางสมพรเคยช่วยเหลือไว้สมัยเด็ก พร้อมกับระบุว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้ว เมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยยาแก้ปวด ยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง
ทั้งนี้ ในคลิปโฆษณาของค่ายมือถือดังไม่ได้ระบุชื่อ นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร ไว้ในโฆษณา แต่เปลี่ยนชื่อตัวละครใหม่เป็น “นายแพทย์ประจักษ์ อรุณทอง” อย่างไรก็ตาม จากการสืบค้นข้อมูลทั้งในฐานข้อมูลแพทยสภา และในอินเทอร์เน็ต ก็ไม่ปรากฏชื่อนายแพทย์ทั้งสองคนนี้ จึงสันนิษฐานได้ว่า นายแพทย์ทั้งสองคนนี้คงไม่มีตัวตนจริง
ส่วนเนื้อหาในฟอร์เวิร์ดเมลก็ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อาจจะเพียงเรื่องแต่ง หรือมาจากเค้าโครงเรื่องจริงบางส่วนแต่มีการแต่งเรื่องเพิ่มตามจินตนาการก็เป็นได้
ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตส่วนหนึ่งระบุว่า จริง ๆ แล้วเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากฟอร์เวิร์ดเมลของต่างประเทศ โดยเรื่องเล่าว่าเด็กน้อยคนหนึ่งขโมยขนมปังแล้วได้คุณป้ามาช่วยเหลือ จากนั้นอีกหลายสิบปีให้หลัง เด็กน้อยคนนั้นได้กลายมาเป็นหมอรักษาโรคให้คุณป้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเรื่องเล่าลักษณะนี้ก็ถูกส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ นานนับสิบปี
อีกด้านหนึ่งในเว็บไซต์พันทิปดอทคอมก็มี คุณ Mangashorn ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้น่าจะหยิบเค้าโครงมาจากเรื่องจริงของ ดร.โฮเวิร์ด เคลลี (Dr. Howard Kelly) แพทย์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกาที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2401-2486
โดยคุณหมอโฮเวิร์ดในวัยเด็กได้เคยไปเคาะประตูบ้านผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อขอนม 1 แก้วดื่มประทังความหิว และผู้หญิงคนนั้นก็ใจดีให้นมมาดื่มโดยไม่คิดเงินเลย
ภายหลัง เด็กชายคนนั้นได้เรียนจบจนเป็นหมอ เมื่อเขาเห็นชื่อผู้หญิงใจดีคนนี้มารักษาตัวที่โรงพยาบาล เขาก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยรักษาผู้หญิงคนนั้นจนหายจากโรคร้ายโดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว เขาให้เหตุผลว่า เป็นเพราะเธอจ่ายค่ารักษาให้เขามาแล้วด้วยนม 1 แก้วนั้นนั่นเอง…