1. วิธีลดความอ้วนด้วยวิธีฉีดสาร Lipodissolve เพื่อละลายไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งศัลยแพทย์และแพทย์ผิวหนังเห็นว่าควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด เพราะไม่มีการรับรองว่าได้ผลจริง อีกทั้งการทำ Lipodissolve นั้นยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐฯ อีกด้วย
2. ศัลยกรรม เท้า ปัจจุบันผู้หญิงหันมาทำ ศัลยกรรม เท้า เพื่อปรับเปลี่ยนรูปร่างเท้าให้ดูสวยงามและเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น แต่นายแพทย์เกลนน์ บี. เฟฟเฟอร์ ประธานสมาคมศัลยกรรมกระดูกเท้าและข้อเท้าแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การทำศัลยกรรมเท้าใช้หลายวิธีร่วมกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อเท้าได้ ทั้งอักเสบ เซลล์ประสาทถูกทำลาย เท้าบวมเรื้อรัง และเจ็บขณะเดิน
3. การฉีดเสริมส่วนต่าง ๆ แบบถาวร ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก หรือปกปิดริ้วรอย โดยทั่วไป สารใช้ฉีดมักจะเป็นการฉีดแบบชั่วคราว เมื่อเวลาผ่านไปสารเหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และสิ่งต่าง ๆ ที่ทำไว้ก็จะกลับคืนสภาพเดิม แต่ก็มีสารบางชนิดที่เป็นการฉีดแบบถาวร ซึ่งจะไปจับตัวกับเนื้อเยื่ออย่างถาวร และมีโอกาสที่จะจับผิดที่ผิดทาง แทนที่จะสวยกลับดูบิดเบี้ยวผิดธรรมชาติไป
4. การฉีดเสริมเต้านม โดยปกติแล้วแพทย์จะนำไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาฉีดเสริม ความจริงแล้วการฉีดไขมันเข้าไปยังเนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจแข็งตัวทำให้ตรวจหามะเร็งเต้านมได้ยากขึ้น
5. ต่อความยาวขา เป็นการผ่าตัดที่รู้จักกันดีในแถบเอเชีย แต่ความสูงเพิ่มขึ้นไม่มากอย่างที่คิด และแพงเกินคาด เฉลี่ยต่อครั้งประมาณ 4,200,000 บาท สรุปคือ สูงขึ้นนิดหน่อย เสียเงินเยอะ แถมเจ็บตัวอีกต่างหาก
6. ศัลยกรรมเสริมบั้นท้าย ทำโดยเสริมแผ่นซิลิโคนก้อนแข็ง ลงไปใต้เส้นใยกล้ามเนื้อสะโพก ทั้งนี้ การทำศัลยกรรมสะโพกนั้นมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากจะเย็บแผลให้อยู่ระหว่างบั้นท้ายทั้งสอง ซึ่งทำให้แผลนั้นอยู่ใกล้กับทวารหนัก แหล่งสะสมสารพัดเชื้อโรคค่ะ
7. สักหน้า ไม่ว่าจะเป็น คิ้ว ขอบตา ขอบปาก ฯลฯ เมื่อเวลาผ่านไปหรือคุณเบื่อขึ้นมาจะทำยังไง!! จริงอยู่ที่ยุคนี้ลบรอยสักได้สบาย แต่ทราบมั้ยค่ะว่า พื้นที่ส่วนใหญ่บนใบหน้ามักเป็นเนื้อเยื่ออ่อน ซึ่งการใช้เลเซอร์ลบรอยนั้นทำได้ยาก และผลที่ได้นั้นอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร
8. ศัลยกรรม ใบหน้า ทั้งดูดไขมันที่แก้มเพราะหวังให้หน้าดูเล็กลง เซ็กซี่มากขึ้น แต่คุณอาจได้หน้าบุ๋ม เป็นหลุมเพราะไขมันถูกดูดออกไปเยอะเกินพอดีก็ได้ และต่อไปก็ดึงหน้า ที่มักจะมีปัญหาเรื่องแผลผ่าตัดซึ่งเห็นได้ชัดจนต้องวิ่งกลับไปแก้แล้วแก้อีก
9. การผ่าตัดกระชับทรวงอก ด้วยวิธีการตัดผิวหนังส่วนเกินออก (mastopexy) เป็นการผ่าตัดที่มีโอกาสผิดพลาดได้มากที่สุด เพราะบางครั้งเมื่อทำการ เสริมหน้าอก แล้วผิวหนังที่ลอกออกมากลับไม่เพียงพอ กับขนาดหน้าอกใหม่ ทำให้ต้องพยายามดึงผิวหนังที่เหลือมาเย็บปิด ปัญหาที่ตามมาหลังจากการผ่าตัดนี้ คือ การติดเชื้อ วัสดุที่ใช้เสริมหลุดออก หน้าอกไม่เท่ากัน หัวนมด้าน ไม่สามารถให้นมบุตรได้ และปัญหาการฟื้นตัวค่ะ
10. การเสริมสวยทุกอย่างที่ไม่ได้ทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำ ศัลยกรรม ให้กับคุณได้ดี เพราะฉะนั้น ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ให้ละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรม จะได้กันไว้ดีกว่าแก้