เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (18 ก.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงผลการจับกุมแก๊งลักลอบจำหน่ายธนบัตรต่างประเทศ สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ อันสืบเนื่องจาก คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 4/2556 ลงวันที่ 31 ก.ค.56 ให้กรณีกลุ่มผู้ค้าธนบัตรไทยและธนบัตรต่างประเทศปลอม ในเขตพื้นที่ภาคกลาง และต่อเนื่องพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย โดยนำออกใช้ หรือจำหน่ายให้กับบุคคลที่มีความต้องการนำเงินดังกล่าวไปหลอกลวงประชาชนทั่วไป และอาจนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย โดยขบวนการนี้แบ่งแยกหน้าที่ในการทำปลอม การเก็บซุกซ่อน การติดต่อหาลูกค้า ทั้งนี้การพิสูจน์ทราบพฤติการณ์ความเคลื่อนไหวกลุ่มบุคคลดังกล่าว และได้นำเสนอที่ประชุม กคพ.จนเป็นคดีพิเศษ ที่ 181/56
พ.ต.อ.ญาณพล กล่าวว่า ดีเอสไอได้ร่วมกับหน่วยสืบสวน US. secret Service ประจำสถานทูตสหรัฐอเมริกาประเทศไทย ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์กลุ่มขบวนการดังกล่าว จนสามารถสืบทราบว่า นายพิสิษฐ์ หรือ บัญชา ฤทธิกุลพิพัฒน์ อายุ 67 ปี อดีตพนักงานธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 92/129 หมู่บ้านทวีสุข ซ.เสรีไทย 29 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร มีพฤติการณ์ลักลอบติดต่อหาลูกค้า เพื่อจำหน่ายธนบัตรปลอม ชนิดดอลลาร์สหรัฐฯ แบบ 100 ดอลลาร์ ซึ่งมักอ้างว่าเป็นธนบัตรจริง แต่มีการพิมพ์เกินหรือชำรุด โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.30 น.เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ทำการล่อซื้อธนบัตรต่างประเทศปลอม ชนิด 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวน 1,000 ใบ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,200,000 บาท ซึ่งซื้อขายในราคา 800,000 บาท เนื่องจากเป็นแบงก์ปลอมเกรดเอ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุมนายพิสิษฐ์ ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 92/129 หมู่บ้านทวีสุข แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง จากนั้นนำผู้ต้องหาตรวจค้นบ้าน พบเครื่องตรวจธนบัตร เอกสารเกี่ยวกับการปลอมธนบัตร และเอกสารเกี่ยวกับการค้าเงินสกุลต่างประเทศอื่นๆ หลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดและนำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป ทั้งนี้เป็นที่น่าสงสัยว่าผู้ต้องหามีที่อยู่ที่เดียวกับ ผู้ต้องหาในคดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกด้วย
อ้างอิง ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ