เพื่อความอร่อยสุดประทับใจไปถึงชาติหน้า แน่นอนว่าหนึ่งในเครื่องปรุงที่จะเสกความอร่อยมาได้นั้นก็คือ ผงปีศาจสีขาว หรือ ผงชูรสนั่นเอง แทบจะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำอาหารเลยทีเดียว มีนักวิชาการบางท่านได้บอกว่า ปริมาณที่เหมาะสมของการใช้ผงชูรส คือ ประมาณปลายช้อนเท่านั้น แต่เท่าที่เคยเห็นแม่ครัวส่วนใหญ่ ก็ตวัดกันเป็นช้อนๆ แน่นอนว่าหากกินไปเรื่อยๆ สะสมไปในระยะยาวเป็นอันตรายแน่นอน

       ผงชูรสคือ สารเคมีชนิดหนึ่งชื่อว่า โนโมโซเดียม กลูตาเมท (MSG) รูปร่างภายนอกเป็นผลผลึกสีขาว ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น โดยโซเดียมกลูต้าเมท เป็นเกลือของกรด กลูตามิก ซึ่งกลดอะมิโนชนิดนึ้ ก็เป็นองค์ประกอบที่อยู่ในโปรตีนทั่วไป ทั้งพืช และสัตว์

       จุดเริ่มต้นของผงชูรสมาจากประเทศญี่ปุ่นครับ เกิดจากค้นพบรสชาติที่สกัดได้จากสาหร่ายทะเล เรียกว่า รสอูมามิ หรือ รสอร่อย ซึ่งค้นพบมาเป็น ร้อยๆ ปีแล้ว หลังจากนั้น ก็มีการเริ่มการผลิตผงชูรสในระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่ในภายหลัง ได้เปลี่ยนทั้งวัตถุดิบและวิธีการผลิต ปัจจุบันผงชูรสผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง ผ่านกระบวนการทางเคมีหลายขั้นตอน ทั้งหมักและใช้สารเคมีหลายตัว เพราะฉะนั้นกินเข้าไปมากๆ เป็นอันตรายแน่นอน (ถึงแม้ว่าส่วนประกอบหลักจะมาจากธรรมชาติก็เถอะ)

      และผงชูรสช่วยให้อาหารอร่อยขึ้นจริงหรือ??????????

      จริงๆแล้วผงชูรสไม่ได้ช่วยให้อาหารอร่อยขึ้นเลยครับ เพราะผงชูรสไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร และไม่มีรสชาติเป็นของตัวเองเหมือนน้ำปลา น้ำตาล แต่ที่เรารู้สึกอร่อยขึ้นเพราะ คุณสมบัติของมันจะไปกระตุ้นประสาทในปากและลำคอ กระตุ้นต่อมรับรสที่ลิ้นให้ขยายตัว จึงรับรสได้ไวกว่าปกติ เวลากินจะช่วยให้ได้รสต่างๆ ค้างอยู่ในปากนานขึ้นกว่าเดิม เราจะรู้สึกว่ารสชาติของมันกลมกล่อมขึ้นนั่นเอง

     การรับผงชูรสเข้าสู่ร่างกายมากเกินไปส่งผลเสียหลายอย่างเลยนะครับ ในระยะสั้นที่เห็นผลได้ทันทีก็คือ จะรู้สึกลิ้นชา หิวน้ำมากๆ อาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่หากเกิดแพ้หรือกินมากเกินไป จนที่ร่างกายจะรับได้ก็ยังมีอาการอื่นๆ อีก เช่น ร้อนที่หน้า แน่นหน้าอก ปวดหัว อยากอาเจียน มีผื่นขึ้น หรือไมเกรนขึ้นได้เลยทีเดียว อาการหนักเบาแล้วแต่คนครับ

     นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อระบบประสาทส่วนอื่นๆ ในร่างกายยกเซ็ทเลยครับ ไล่ตั้งแต่ระบบสมอง ระบบควบคุมน้ำตาล ระบบสมดุล เคยมีการทดลองในหนูเพื่อตรวจสอบอันตรายจากผลชูรส พบว่าถ้าให้ผงชูรสในปริมาณมาก คือ 1กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม จะทำลายสมองของหนู 100% โหดร้ายมาก แต่ถ้าปริมาณผงชูรสลดลงเหลือ 0.5 สมองจะถูกทำลายครึ่งหนึ่ง และถ้าลดลงเหลือ 0.25 จะไม่มีผลกระทบใดๆ เกิดขึ้น ส่วนความเชื่อที่ว่ากินแล้วผมร่วง ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการนะครับ เดาว่าอาจจะเป็นแค่ความเชื่อเท่านั้น (นี่ขนาดผงชูรสแท้นะเนี่ย ถ้าเป็นผงชูรสปลอมจะขนาดไหน) 

    เห็นโทษแบบนี้แล้ว ก็นึกขยาดผงชูรสเหมือนกันแต่ในชีวิตประจำวันเราหลีกเลี่ยงค่อนข้างยากครับ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารต่างๆ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มี ขนมก็มี เพระาฉะนั้น ทางหลีกเลี่ยงง่ายที่สุดคือ ถ้ามีโอกาสลองทำกับข้างทานเองที่บ้าน แล้วลองไม่ใส่ผงชูรสดูบ้าง เชื่อว่ารสชาติคงไม่ต่างกันมากหรอกครับ ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือของเรา ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่มาทานอาหารที่อาจจะไม่อร่อยที่สุด แต่ปลอดภัยที่สุดกันดูนะครับ