1. งดกาแฟถ้วยที่ 2 – ดื่มกาแฟวันละ 1 แก้วดีต่อสุขภาพ แต่หากดื่มเป็นแก้วที่ 2 คาเฟอีนจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น 16 ครั้งต่อนาที ทำให้รู้สึกใจสั่นและมีความกังวลเพิ่มขึ้น
2. หามุมสงบ-ฟังเพลง – ฟังเพลงเบาๆ โดยเฉพาะเพลงแนวสบายๆทั้งเสียงบรรเลงดนตรีและเสียงธรรมชาติ อย่างเสียงคลื่น น้ำตก นกร้อง จะช่วยสร้างสมาธิให้กลับคืนสู่สมองและจิตใจได้อย่างน่ามหัศจรรย์
3. หลับตาผ่อนคลาย – การรักษาสมดุลแห่งความเครียด คือ การฝึกจิตง่ายๆ ครั้งละ 10 – 15 นาที เช้าและเย็น ด้วยการนั่งท่าสบายๆ อยู่ที่โต๊ะทำงานของคุณ หนุนศีรษะบนแขนที่วางไขว้กัน หลับตาและปล่อยตัวตามสบาย เพื่อผ่อนคลายง่ายๆและพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์
4. เปลี่ยนอิริยาบถ – อาจย้ายที่นั่ง หรือลุกขึ้นยืน เดินไปเดินมา มองโน่นมองนี่บ้าง เบี่ยงเบนความสนใจไปยังเรื่องอื่น ทำให้ลืมความเครียดไปชั่วขณะ ก่อนที่จะกลับมาทำงานอีกครั้งด้วยความคิดและมุมมองใหม่ ๆ
5. สูดกลิ่นหอม – กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์จะช่วยปลุกประสาทสัมผัสให้สดชื่นตื่นตัว แถมยังกระตุ้นพลังงานในจิตใจได้เป็นอย่างดี เวลาเครียดๆ ลองสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ อย่างกุหลาบ มะลิ ลาเวนเดอร์ หรือจะหยดน้ำมันหอมระเหยตรงโต๊ะทำงานก็จะรู้สึกดีขึ้นได้
6. หนังสือบำบัด – หาหนังสือเล่มโปรด ที่อ่านแล้วรู้สึกสบายใจ มาไว้ใกล้มือ เครียดเมื่อไหร่หยิบมาพลิกอ่านสักหน้าสองหน้าแก้เครียด
7. มองออกไปไกล ๆ – หากที่ทำงานของคุณอยู่บนตึกสูง ให้มองผ่านกระจกออกไปไกล ๆ จะเห็นวิวโดยรอบ ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดโปร่งและผ่อนคลาย
8. สร้างอารมณ์ขัน – หลังจากทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ลองชวนเพื่อนที่มีอารมณ์ขันคุยเบาๆ จะช่วยกระตุ้นจิตใจที่แสนห่อเหี่ยวให้หัวเราะได้อีกครั้ง คนที่หัวเราะง่ายมักมีสุขภาพกายและจิตที่ดี เนื่องจากการหัวเราะจะช่วยลดความดันโลหิตและระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลของระบบประสาททางหนึ่งด้วย (ฮอร์โมนคอร์ติซอล : ฮอร์โมนแสดงความเหนื่อยล้าในกระแสเลือด)
9. สร้างกำลังใจให้ตัวเอง – ความผิดพลาดบางอย่างที่แก้ไขไม่ได้ก็ใช้เป็นบทเรียน แต่จงอย่างให้ความผิดพลาดนั้นกลายเป็นสิ่งที่มากดดันให้เครียดมากจนเกินไป
10. คิดในทางบวก – จำไว้ว่าการมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน คิดถึงประสบการณ์ดีๆ ที่ผ่านมาในชีวิตให้บ่อยขึ้น รวมถึงคิดถึงความปรารถนาดีของคนอื่นที่มีต่อเราก็จะช่วยให้เครียดน้อยลงและมีความสุขมากขึ้นได้