รวบ 2 ผู้ต้องหาอุ้มนักศึกษาเรียกค่าไถ่ 5 แสน ที่แท้ฝีมือญาติ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคลุกวงข่าว โพสต์โดยคุณ DuangAestheticII  สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

 


            ตำรวจภาค 5 รวบ 2 ผู้ต้องหา ก่อคดีอุ้มนักศึกษาเรียกค่าไถ่ 500,000 บาท ระหว่างขับรถหนีเข้า กทม. โดยพบว่า เป็นญาติกัน และอ้างว่าตอนแรกตั้งใจจะล้อเล่น แต่เมื่ออดีตทหารจีนเข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเรื่องจึงเลยเถิดเกินควบคุม 

            เมื่อวานนี้ (16 กันยายน 2556) พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 แถลงผลการจับกุม นายรุ่งโรจน์ แซ่หลี่ อายุ 34 ปี และ นายศิวกร พันธุศิลป์ อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน ญช 2464 กทม. โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ และทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง

            การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 8 กันยายน 2556 นายอดิศร ศรีมี่ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวช. ปี 1 วิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ถูกสองผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด อุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ 5 แสนบาท โดยมารดาของผู้เสียหายได้ยอมโอนเงินจำนวนดังกล่าวไป เพื่อแลกกับความปลอดภัยของลูกชาย ก่อนแจ้งความกับเจ้าหน้าที่

            ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาที่ได้เงินไปแล้ว กำลังหลบหนีไปที่ กทม. จึงเข้าตั้งด่านสกัด จนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ ด่านตรวจบ้านห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ในการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การวกวนไปมา อ้างว่าก่อเหตุเรียกค่าไถ่จริง แต่เป็นการวางแผนร่วมมือกับผู้เสียหาย เพื่อหวังหลอกเอาเงินมารดา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเรียกตัวผู้เสียหายมาสอบอีกครั้งว่าเป็นจริงตามที่ผู้ต้องหาซัดทอดหรือไม่ 

            ทั้งนี้ เมื่อผู้เสียหายยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงต้องสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง กระทั่งในที่สุด นายรุ่งโรจน์ หนึ่งในผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า ปกติตนมีอาชีพรับแทงหวยใต้ดิน วันหนึ่ง นายศิวกร ซึ่งเป็นหลานได้เข้ามาหา พร้อมบอกว่า ขณะนี้มีหนี้สินจำนวนมาก อยากให้ช่วยเหลือ จากนั้นทราบว่า ผู้เสียหายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานอีกคน มารดาหวงมาก รวมทั้งที่บ้านมีฐานะพอสมควร จึงคิดลงมือดังกล่าว

            แต่ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ จึงปรึกษากับ นายเดิม อดีตทหารจีน ที่ปัจจุบันมีอาชีพเป็นการ์ดให้กับสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จนมีทีมงาน 3 ราย ต่อมา นายเดิม ได้ว่าจ้าง น.ส.เฟิร์น ด้วยเงิน 3,000 บาท ทำการล่อหลอกผู้เสียหายให้มาติดพัน ก่อนจะนัดแนะให้มาเจอกันที่บริเวณหน้าโรงแรมบีทู ใกล้กับโลตัสตลาดคำเที่ยง ถนนเชียงใหม่-ลำปาง อ.เมือง เมื่อผู้เสียหายมายังจุดเกิดเหตุ พวกตนจึงอุ้มขึ้นรถ ก่อนพาไปขังไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อเรียกค่าไถ่จากมารดานายอดิศร เป็นเงิน 500,000 บาท

            นายรุ่งโรจน์  กล่าวอีกว่า พอรู้ว่าแม่เหยื่อโอนเงินมาแล้ว ตนกับหลานก็ตระเวนออกกดตู้เอทีเอ็มต่าง ๆ จนได้เงินครบ ก่อนพาผู้เสียหายไปส่งทิ้งไว้ที่ปั๊ม น้ำมันบางจากใน อ.แม่ริม จากนั้นก็นำเงินมาแบ่งกัน โดยตนกับหลานได้มาคนละ 100,000 บาท ส่วนนายเดิม หัวหน้าทีม รับไป 300,000 บาท จากนั้นจึงแยกย้ายกันไป ต่อมาเมื่อรู้ว่าผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และตำรวจเริ่มสืบสวนคดี ด้วยความกลัวจึงพาหลานขับรถหนีหวัง ไปซ่อนตัวที่ กทม. แต่ก็โดนจับได้ ส่วนนายเดิมไม่รู้ว่าไปหลบที่ใด ทั้งนี้ อยากขอโทษแม่ของหลานคนดังกล่าว เพราะทีแรกคิดจะล้อเล่น แต่พอนายเดิมเข้ามาเป็นทีมงาน เรื่องราวจึงเลยเถิดไปไกลจนเกินจะควบคุม

            ด้าน พล.ต.ท.สุเทพ กล่าวว่า สำหรับรถยนต์ของผู้ต้องหาที่ใช้ก่อ เหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาจาก สน.ดอนเมือง เมื่อปี 2555 หากเจ้าของรถตัวจริงทราบข่าว ให้มาดูรถของกลางได้ทันที ส่วนด้านคดีจะเร่งติดตามตัวนายเดิมมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
 

Credit: http://hilight.kapook.com/view/91199
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...