การเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับความสนใจไปทั่วโลก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในรอบ 58 ปี ที่ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา
นายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน โดนท่านนายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาในการเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเป็นเวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งถือเป็นผู้นำไทยคนแรกในรอบ 58 ปี ที่ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปา นับตั้งแต่สมัยของจอมพล ป. พิบูลสงคราม
การเดินทางเยือนนครรัฐวาติกันของท่านนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจำนานมาก เนื่องจากท่านถือเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกในรอบ 58 ปี ที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งในปีนี้ ถือเป็นปีที่ 35 ที่ทั้งไทยและนครรัฐวาติกัน สถาปนาการทูตระหว่างกัน แต่ความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันมาอย่างช้านาน นับตั้งแต่ที่วาติกัน ส่งคณะบาทหลวงมาเผยแพร่ศาสนาในไทยเมื่อ 300 กว่าปีก่อน อีกทั้งในปี 2527 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ก็เคยเสด็จเยือนไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลก และพระองค์ยังมีส่วนช่วยให้องค์กรเอ็นจีโอ และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ หันมาให้ความสนใจในปัญหาชนกลุ่มน้อย และผู้อพยพในประเทศไทยอีกด้วย
ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้ทูลเชิญให้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสด็จเยือนประเทศไทย ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นช่วงปี 2559 เนื่องจากเป็นปีที่ฟิลิปปินส์ จะจัดการประชุมประจำปีของนิกายคาทอลิก และสมเด็จพระสันตะปาปาก็จะเสด็จมาร่วมงานดังกล่าวด้วย
พร้อมกันนี้ ท่านนายกรัฐมนตรียังได้ให้สัมภาษณ์ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาได้ตรัสชื่นชมโรงเรียนคาทอลิกของไทย ที่มีคุณภาพดี และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่านนายกเอง ก็เคยรับการศึกษาในโรงเรียนคาทอลิกมาก่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
สำหรับภารกิจของท่านนายกรัฐมนตรีจากนี้ก็คือการเดินทางไปเยือนนครมิลาน เพื่อนำทีมนักธุรกิจไปดูงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการออกแบบ โดยมีกำหนดการเข้าพบกับนักเรียนไทย ที่ศึกษาด้านการออกแบบที่นี่ด้วยค่ะ