เ งิ น ป า ก ผี

เ งิ น ป า ก ผี 


เมื่อพูดถึงเงินปากผีหลายท่านคงไม่พ้นนึกถึงเรื่องผีและความน่ากลัว ทั้งๆ ที่จุดประสงค์ของเงินปากผีนั้นจริงๆ ไม่ได้ต้องการให้ผีออกมาหลอกหลอนใคร แต่เป็นความเชื่อในการเก็บทรัพย์ให้คนตายไปใช้ในโลกหน้า แต่ทำไปทำมาถึงกลายเป็นเรื่องความน่ากลัวไปได้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเรื่องของเงินปากผีที่พอเอาไปทำเป็นหนังเป็นละคร ก็มักจะให้ผีตามหลอกหลอนบรรดาคนที่ขโมยเงินปากผีไปจนต้องตายตกไปตามกัน ซึ่งดูเหตุผลแล้วก็พอจะรับได้คนไม่ดีไปขโมยของคนอื่นก็ควรได้รับผลตอบแทน เป็นการสอนการทำความดีความชั่วกับคนดูไปในตัว

เงินปากผีความหมายตรงตัว คือเงินที่อยู่ในปากผี

ผีในที่นี้หมายถึงศพที่โดยทั่วไปเรียกว่าผี การนำเงินใส่ปากศพ ถือว่าเป็นความเชื่อในบ้านเรามาช้านาน และไม่ได้มีแต่ในบ้านเราชาติเดียวที่เชื่อเรื่องเงินปากผี ชาติอื่นๆ ก็มีความเชื่อแบบนี้แต่ต่างกันไปในรายละเอียด

ตามความเชื่อเรื่องเงินปากผีของคนไทย จะนำเงินพดด้วง เงินเหรียญบาท จะเป็นเหรียญสลึงสองสลึงไม่กำหนด ใส่ไว้ในปากศพ หรือจะห่อเงินด้วยผ้าขาว ผูกเชือกไว้เป็นหางยาว หย่อนลงในปากศพ ให้เชือกห้อยออกมานอกปากก็ได้

ถ้าไม่ผูกเชือกต้องห่อให้โตพอไม่ให้ไม่ให้เหรียญนั้นเลื่อนลึกลงไปในลำคอ เพราะเวลาสับเหร่อจะนำศพไปเผาสัปเหร่อส่วนมากจะเอาเงินออกจากปากศพ เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ เก็บเป็นที่ระลึก เก็บเอาไปทำเป็นส่วนผสมของเครื่องรางของขลัง ที่เรียกกันว่าโลหะอาถรรพณ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า เหล็กขนันผีพราย เหล็กยอดเจดีย์ ทองยอดนพคุณ ทองแดงเถื่อน ทองขวานฟ้า ดีบุก และเงินปากผี

ของขลังที่มีส่วนผสมของเงินปากผีที่เป็นที่รู้จักคือวัวธนูหรือควายธนู

การนำเงินออกจากปากศพหรือปากผีไม่ใช่ใครก็เอาออกกันได้ง่ายๆ ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีอาคมพอตัวอย่างกับสัปเหร่อทั้งหลายที่มักจะมีวิชาอาคมติดตัวอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคนที่เอาเงินออกจากปากผีอาจถูกผีตามไปหลอกหลอนถึงบ้าน หรือของเข้าตัวทำให้มีอันเป็นไป เงินปากผีถึงไม่ใช่เงินที่ใครคิดจะเอาไปได้

ง่ายๆ ยิ่งในสมัยนี้แล้วคงไม่มีใครคิดอยากจะเอาเงินปากผีไปใช้ประโยชน์อีก ในสมัยก่อนการใส่เงินปากผีเพื่อให้เป็นค่าจ้างแก่สัปเหร่อที่จะนำศพไปเผา ที่ต้องนำไปใส่ไว้ในปากเพราะว่าจะได้หาได้สะดวก เพราะถ้าเจ้าภาพบิดพลิ้วสัญญาค่าจ้างภายหลัง เงินใส่ปากศพจะกลายเป็นเงินค่าจ้าง เพราะในสมัยก่อนเงินบาทสองบาทก็มีค่ามาก

มาถึงสมัยปัจจุบันนอกจากเหรียญแล้วยังมีการนำธนบัตรใบละร้อย ใบละห้าสิบบาท ยี่สิบบาท สิบบาท ตามแต่ฐานะของผู้ตายและญาติผู้ตาย ใส่ลงในโลงศพและใส่ในปากศพเป็นเงินปากผีด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ปรากฏข่าวแปลกในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเมื่อสี่ปีก่อน ว่ามีสัปเหร่อคนหนึ่งที่อยุธยา ลุงคนนี้เป็นสัปเหร่ออยู่หลายวัด แล้วก็มีเรื่องแปลกของลุงไหลคือที่ฝาบ้านไม้ชั้นบนตรงระเบียงหน้าบ้านมีธนบัตรไทยหลายชนิดทั้งใบละร้อย ห้าสิบบาท และยี่สิบบาท หุ้มห่อด้วยพลาสติกอย่างดี ตีตะปูยึดมุมสี่ด้านกับฝาผนังติดเต็มไปหมดผนังรวมแล้วเกือบสองหมื่นบาท

เงินทั้งหมดนี้ลุงสัปเหร่อเอามาจากปากศพที่ทำหน้าที่เผาศพให้ โดยก่อนเผาศพทุกศพเมื่อเปิดฝาโลงบนเมรุให้ญาติดูหน้าศพเป็นครั้งสุดท้ายและเอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ ลุงไหลจะบอกญาติคนตายขอเงินในปากผี และเงินที่ญาติใส่ไว้ในโลงศพ เพื่อนำมายังบ้านพัก เพราะลุงเห็นว่าเงินปากผีนี้เผาไปก็ไร้ประโยชน์ลุงจึงเก็บเงินพวกนี้ไว้ทำบุญ

ทำไมถึงต้องมีเงินปากผี ได้มีผู้รู้อธิบายว่าการนำเงินใส่ปากศพก็เพื่อผู้ตายจะได้เอา ทรัพย์ติดไปใช้สอยในเมืองผี

หลายคนสงสัยว่าทำไมคนใส่เงินปากผีในศพไม่เท่ากัน บางคนใส่เหรียญในปากแค่บาทสองบาททำไมไม่ใส่ให้เต็มปากผู้ตายจะได้มีเงินไปใช้ในภพหน้าเยอะๆ

เรื่องนี้ผู้เขียนคิดเองว่าที่เขาไม่ใส่เงินปากผีมากๆ นั้น เพราะการใส่เงินปากผีมากน้อยไม่ใช่จุดประสงค์หลัก เป็นการทำเพื่อเอาเคล็ดมากกว่าเพราะเงินจะมากหรือจะน้อยก็ถือเป็นตัวแทนของเงินที่คนตายจะนำติดตัวไปเท่านั้น

การใส่เงินปากผียังเป็นธรรมะสอนคนด้วยการเปรียบเทียบให้เห็นว่า บรรดา ทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่มีมากเท่าไหร่ ตายแล้วก็นำติดตัวไปไม่ได้ ถึงเอาไปได้ก็เอาไปได้น้อยนิด และก็ใช่ว่าจะได้เอาไปจริงๆ เพราะมีคนล้วงออกจากปากก่อนจะนำไปเผา สุดท้ายจะเอาไปได้ก็แต่บุญธรรมกรรมแต่งที่แต่ละคนทำเอาไว้ตอนมีชีวิตอยู่ เป็นการสอนทางอ้อมให้คนรู้จักทำความดีสะสมความดีมากกว่าสะสมทรัพย์สมบัติที่เป็นของนอกกาย ความดีต่างหากที่เหลือติดตัวอยู่ให้คนได้กล่าวขาน เป็นการสอนคนไม่ได้ลุ่มหลงกับทรัพย์สมบัติ

ในต่างประเทศก็มีความเชื่อเกี่ยวกับเงินปากผีอยู่หลายเรื่อง

ชาวกรีกและโรมัน มีการกล่าวถึงการนำวิญาญไปส่งยังนรก ซึ่งเส้นทางการเดินทางต้องผ่านไปขอบโลกโดยต้องข้ามมหาสมุทรหรือทะลุถ้ำที่ใต้ทะเลซึ่งลึกมาก ที่เรียกว่า Erebus (นรกชั้นนอก) และผ่าน Acheron (แม่น้ำแห่งความวิปโยค) ที่ไหลไปสู่แม่น้ำแห่งความกำสรวล Cocytus ซึ่งวิญญาณที่จะผ่านไปตามเส้นทางเหล่านี้ได้จะต้องอาศัยเรือพายของชายแก่ที่มีชื่อ Charon เป็นคนแก่ผมหยิกดำ หนวดเครารุงรัง แจวเรือรับส่งวิญญาณข้ามฟาก โดยคิดค่าจ้างรับส่ง เป็นเงิน หนึ่งอะบะลัส ด้วยเหตุนี้เมื่อมีคนตาย ชาวกรีกโบราณจะนำเงินหนึ่งอะบะลัส ใส่ปากศพตรงใต้ลิ้น สำหรับเป็นค่าจ้าง ข้ามส่งให้กับมนุษย์การน เมื่อข้ามฟากได้แล้ววิญญาณจะถูกพาไปศาลเมืองผี และจะถูกไต่สวนถึงบาปบุญที่ได้ทำไว้แต่ครั้งยังอยุ่ในโลกมนุษย์ ถ้าวิญญาณ ได้ทำบุญ ไว้จะถูก พิพากษาให้ไปสู่สถานบรมสุขเรียกว่า "อีลีเซียม" ซึ่งเป็นแดนรื่นรมย์

เมื่อเสวยสุขครบพันปี วิญญาณ จะกลับมาเกิดในเมืองมนุษย์อีกครั้ง แต่ก่อนที่เวียนมาเกิดใหม่ วิญญาณจะต้องดื่มน้ำ ในแม่น้ำลีซี เพื่อ ให้ลืมความหลัง ส่วนวิญญาณที่ทำบาป จะถูกพาไปสู่นรกที่เรียกว่า "ฮาดีส"

ชาวยุโรปที่นับถือศาสนาคริสต์สายคริสตัง ที่สืบประเพณีโบราณกันมา จะเอาเบี้ยทองแดง หนึ่งเพนนี วางไว้บนเปลือกตา หรือกระบอกตาของคนตาย เพื่อใช้เป็นค่าจ้างข้ามแม่น้ำแห่งความตาย

ชาวฮินดูมีความเชื่อเรื่องการเอาเงินและข้าวสารเล็กน้อยใส่ปากศพ เพื่อให้เอาไว้ใช้ภายหน้า เพื่อให้มีเงินทองใช้ มีอาหารการกินไม่ให้อดอยาก

ชาวเผ่าสิงโพ ชนเผ่าหนึ่งในประเทศพม่า เมื่อแต่งตัวศพเรียบร้อยแล้ว จะเอาเนื้อหมูและเหล้า และข้าวเซ่นสรวง และเอาเงินใส่ปากศพ ถ้าผู้ตายเป็นหัวหน้าจะเอาเอาหินแก้วอันมีค่าใส่ไว้ใต้รักแร้ ข้างละเม็ด แล้วจึงนำใส่โลง

ชาวจีนจะเอาเงินอีแป๊ะใส่ปากศพและเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ ความเชื่อเรื่องของเงิน

ปากผีจึงไม่ใช่ความเชื่อเฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่เป็นความเชื่อสากลที่เชื่อกันหลายพื้นที่ของโลก

Credit: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=721889404495284&set=a.301458716538357.97728.299830193367876&type=1&theater
#เงินปากผี
CMjojo
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
10 ก.ย. 56 เวลา 13:49 10,716 1 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...