(10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเครื่องบินโดยสารแอร์บัสเอ 330 สายการบินไทย เที่ยวบิน TG 679 พาผู้โดยสารและลูกเรือเกือบ 300 คน เดินทางจากเมืองกว่างโจว มาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 8 กันยายน แต่มาประสบเหตุเครื่องบินไถลตกรันเวย์ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 คน

เหตุดังกล่าวยังคงตามมาพร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความปลอดภัย รวมทั้งเหตุชุลมุนวุ่นวายช่วงเวลาเกิดเหตุ มีกระแสข่าวลือในโลกออนไลน์อ้างว่า ลูกเรือละเลยที่จะช่วยเหลือผู้โดยสารออกเครื่อง ไปให้การช่วยเหลือผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสหรือชั่นธุรกิจก่อน ซึ่งทางการบินไทยก็ได้ออกมาปฏิเสธและชี้แจงว่า ลูกเรือได้ช่วยเหลือและลำเลียงผู้โดยสารทุกคนออกจากเครื่องบินเท่าเทียมกันหมด และลูกเรือเป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่ออกมาจากเครื่องบิน

ทั้งนี้ เหตุเครื่องบินสายการบินไทยไถลตกรันเวย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ยังส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินอื่นๆ ที่สนามบินเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุ และซ่อมแซมพื้นรันเวย์ ซึ่งมีรอยลากลึกไปทางยาว รวมทั้งปฏิบัติการเก็บกู้ซากเครื่องบิน ซึ่งมีรายการระบุว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 11 กันยายนนี้

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งเสียงวิจารณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับกรณีอุบัติเหตุดังกล่าวคือ การทาสีดำปิดทับโลโก้การบินไทยบนตัวเครื่องบินที่เกิดเหตุ หลายคนเริ่มสงสัยว่าทำไปเพราะเหตุใด เช่นเดียวกับสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง อาทิเช่น เดลีเมล์ รอยเตอร์ส หรือ ไชน่าเดลี่ ต่างสงสัยในประเด็นเดียวกัน มีการวิจารณ์เรื่องการปิดบังสัญลักษณ์โลโก้ของสายการบินไทยครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของสายการบินไทย

ล่าสุด ทางสายการบินไทย ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผู้โดยสารเที่ยวบิน TG 679 ที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 12 ราย ยังเหลือที่ต้องรักษาอาการอยู่อีก 2 ราย ส่วนประเด็นเรื่องสัมภาระของผู้โดยสาร ทางสายการได้ลำเลียงส่งให้กับผู้โดยสาร ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ แล้ว ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อเที่ยวบินอื่นๆ ของสายการบินไทยแต่อย่างใด

ขอบคุณข้อมูลประกอบข่าวจาก เฟซบุ๊ก ThaiAirways และ สำนักข่าวไทยพีบีเอส