10 SuperStar กับชีวิตที่พลิกผัน แบบสุดๆ

(ตอนที่ 2 อันดับที่ 6 - 10)

อันดับ 6 อุ้ยอ้าย ชฎาธร
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา รายการประเด็นเด็ด 7 สี ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เผยแพร่สกู๊ปชีวิต อุ้ยอ้าย ชฎาธร แดงใส อดีตดารานางแบบดัง อายุ 44 ปี ที่ปัจจุบันทิ้งอาชีพหญิงขายบริการ ในอาบ อบ นวด หันไปยึดอาชีพแม่บ้านทำความสะอาดศูนย์การค้าแห่งหนึ่งโดยเธอเผยว่าทุกวันนี้ มีความสุขที่สุดกับการอยู่อย่างพอเพียง

อดีตนักแสดงสาวเคยเล่าประวัติชีวิตตัวเองไว้ว่า เธอเป็นชาวอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ข้าวโพด แม่ตาย ส่วนพ่อหายสาปสูญไป จึงมาอาศัยอยู่กับป้าที่กรุงเทพฯ เมื่ออายุประมาณ 17 ปี มีคนมาชักชวนให้ไปเล่นมิวสิกวีดิโอเพลงของวง สาว สาว สาว จึงไม่ได้เรียนหนังสือต่อ และเป็นจุดเริ่มต้นเข้ามาสู่แวดวงบันเทิง

เธอยังเล่าด้วยว่าในช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่ในวงการบันเทิง มีคนมาชวนให้ไปนั่งกินข้าวกับนักธุรกิจและนักการเมืองชื่อดังหลายคน นอกจากนี้ยังมีคนติดต่อให้ไปร่วมหลับนอนกับนักการเมืองคนดัง ระดับประเทศคนหนึ่งที่ฮ่องกงเป็นเวลา 2 วัน ได้ค่าตัวมากถึง 1 แสนบาท ไม่นานก็มีเสี่ยคนหนึ่งมาเลี้ยงดูให้เงินใช้อยู่ประมาณ 1 ปี ก็เลิกร้างกันไปอีก ช่วงที่เที่ยวเตร่กลางคืนเคยติดยาและถูกเพื่อนเอายาอี ยาเค มาฝากจนถูกตำรวจจับ คดีรอลงอาญา ทำให้ชีวิตเริ่มถลำเข้าสู่มุมมืด จะหันกลับไปใช้ชีวิตในวงการบันเทิงก็ไม่ได้เพราะชื่อเสียงเน่าเสียไปแล้ว หลังจากนั้นเธอจึงยึดอาชีพเป็นหมอนวด โดยการเป็นนางทางโทรศัพท์ก่อนที่จะมาประจำสถานอาบอบนวดแห่งหนึ่ง

ชีวิตปัจจุบันของเธอคือการยึดอาชีพแม่บ้านศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเธอบอกว่าเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขกับการได้อยู่อย่างพอเพียง เธอยังบอกด้วยว่าที่ผ่านมาไม่เคยน้อยใจในโชคชะตา แต่เจ็บใจตัวเองที่ประพฤติตัวอย่างที่ผ่านมา “ทุกสิ่งเราทำตัวเอง ประพฤติตัว มันก็เป็นอย่างนี้”

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอภูมิใจและมีความสุขที่สุดในตอนนี้คือการที่เธอได้เรียกค่าของความเป็นคนกลับคืนมา “เราสามารถเรียกกลับคืนมาได้ มีศักดิ์ศรีในตัวเอง เรารู้แล้วว่าถ้าเราอยู่อย่างพอเพียง เราก็อยู่ได้ ทุกวันนี้แค่กินอิ่มนอนหลับ ก็สุขใจแล้ว”

ต้น ทิค แทค โท

ต้น ทิค แทค โท

อันดับ 7 ต้น ทิค แทค โท
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 12 ปีที่แล้ว ถ้าเอ่ยถึงวง “ทิค แทค โท” ที่ประกอบไปด้วย 3 หนุ่มหล่อ “ต้น ตี๋ เป้” เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักพวกเขา เพราะเป็นบอยแบนด์ในยุคแรกๆ ที่นำกระแสเจป็อปมาบุกเบิกตลาดในเมืองไทย ซึ่งเรียกได้ว่าดังมากๆ วงหนึ่ง ด้วยหน้าตาที่หล่อ เท่ น่ารัก บวกกับความขี้เล่นจนกลายเป็นเสน่ห์ ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมมากในหมู่สาวๆ

ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ กระแสความโด่งดัง ก็ค่อยๆ ลดน้อยลงตามกาลเวลา ประกอบกับต้นสังกัดคือค่ายคีตา มีเหตุต้องปิดตัวลง ทำให้วง “ทิค แทค โท” ค่อยๆ จางหายไปในความทรงจำของผู้คน ไม่มีใครทราบว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่จู่ๆ รายการ “ตีสิบ” ก็ได้รับการติดต่อมาจากทางครอบครัวของ “ต้น ทิค แทค โท” หรือ “ต้น-วิฑูรย์ ตปนิยาภรณ์” เพื่อจะขอพา “ต้น” มาออกรายการเพื่อช่วยฟื้นความทรงจำให้กับต้น และเพื่อหาชีวิตที่หายไปของ “ต้น” กลับคืนมา ที่สำคัญอยากให้ชีวิต “ต้น” เป็นอุทาหรณ์ให้กับเด็กๆ และเยาวชน หลังจากเขากลายเป็นคนความจำเสื่อม จำไม่ได้แม่กระทั่ง “แม่” เนื่องจากเสพยาเสพติดมากเกินขนาด และเสพมาเป็นเวลานานหลายปีๆ

ไม่เคยมีใครจะคาดคิดว่าเด็กหนุ่มที่มีอนาคตในวงการบันเทิง จะหันหน้าไปพึ่งยาเสพติดได้ เพราะในช่วงที่โด่งดัง “ต้น” เกิดหลงเดินทางผิด เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กว่าที่ทางบ้านจะทราบเรื่อง “ต้น” ก็สูญเสียความทรงจำไปแล้ว จากที่เมื่อก่อนเขาจะเป็นคนร่าเริง ใจดี ไม่เคยดุ ด่า พอเสพยาเสพติดก็กลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย เช่น หงุดหงิดง่าย โวยวาย ถึงขนาดเกิดประสาทหลอน เนื่องจากกินยานอนหลับเกินขนาด จนเกิดอาการเอ๋อ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง บางวันก็ไปนั่งที่ขอบริมระเบียงคอนโดมิเนียม แล้วหันมาถามน้องสาวว่า…ถ้าพี่กระโดดลงไปจะเจ็บไหม โชคดีที่น้องสาวหันไปคว้าทัน

“ต้น” ในวัย 31 ปี แม้จะแก่ขึ้นตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงความหล่อไว้ได้เสมอ และก็ค่อยๆ พยายามฟื้นความจำตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้ “ต้น ทิค แทค โท” สู้ต่อไปและกลับมาสดใสอีกครั้งพร้อมกลับหวนมาจับไมค์ร้องเพลงให้แฟนเพลงได้ฟังอีก…

จอยซ์ ไทรอัมพ์ส คิงดอม

อันดับ 8 จอยซ์ ไทรอัมพ์ส คิงดอม
หลายปีก่อนวงการนักร้องดูโอสาววัยรุ่นคู่หนึ่งถูกจับตามองจากแฟนเพลง ด้วยลีลาการแต่งตัวที่หวือหวา ใส่เสื้อสายเดี่ยวเอวลอย เกาะอก โชว์หน้าท้องขาวเนียน ผสมผสานกับท่าเต้นที่เย้ายวนชวนให้บรรดาหนุ่มๆ พากันหลงในลีลา

อัลบั้มคู่สาว โบ-จอยซ์ แห่งวงไทรอัมพ์ส คิงดอม จึงโด่งดังสุดขีดชนิดไม่สนคำพิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่เน้นขายเซ็กซ์มากว่าขายเสียง

แถมยังทำเอาวัยรุ่นสาวหันมานิยมแต่งตัวตามสไตล์ของทั้งสองกับทั่วเมือง

สองสาว โบ-จอยซ์ คว่ำหวอดอยู่ในวงการดนตรีและการแสดงนานเพียง2 ปี ก่อนทั้งคู่จะประกาศแยกวงหันไปทำงานที่แต่ละคนรัก โดย “สาวโบ” หันไปจับงานดีเจ.ที่คลื่นยอดนิยมคลื่นหนึ่ง ขณะที่ “สาวจอยซ์” หายหน้าเงียบออกนอกวงการไปประกอบธุรกิจส่วนตัว

อย่างไรก็ดี ทั้งสองเตรียมมาปรากฏร่างโชว์เรือนร่างเซ็กซี่กันอีกครั้งในงานคอนเสิร์ท 10 ปี ของเบเกอรี่มิวสิค อดีตต้นสังกัดของทั้งคู่ วันที่ 10 ธันวาคมนี้

แต่ยังไม่ทันถึงวันนั้นก็ดันเกิดคดีคึกโครมช็อกวงการบันเทิง

เมื่อ “จอยซ์”ถูกจับข้อหาค้ายาบ้า !!!
“จอยซ์ติดมัน ติดมันมานานเกือบ 2 ปีแล้ว เลิกก็ไม่ได้ต้องเสพวันละ10เม็ด พอไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปซื้อมัน จึงตัดสินใจร่วมกับแฟนนำมันมาปล่อยขายเองเพื่อหาเลี้ยง…” อดีตนักร้องวงไทรอัมพ์ส คิงดอม ที่เคยโด่งดังที่สุดในวงการร่ำไห้สารภาพผิด

แสดงให้เห็นถึงพิษภัยของยาเสพติด ทำลายชีวิต ทำลายอนาคต และชื่อเสียงที่สะสมมานาน จบตำนานนักร้องสาวดูโอสุดเซ็กซี่ที่ใครๆพากันหลงใหลในเรือนร่างและเส้นเสียง !!!

แพท วรยศ บุญทองนุ่ม

อันดับ 9 แพท วรยศ บุญทองนุ่ม
เหตุอุทาหรณ์ครั้งนี้ต้องย้อนไปถึง 7 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2547 ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 นำกำลังเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากเอเยนต์รายใหญ่ ที่มักลักลอบขายยาเสพติด ประเภทกัญชา ยาเค และยาอีให้กับนักท่องเที่ยวยามราตรี

เมื่อเดินทางมาถึงที่นัดหมายบริเวณห้างฟู้ดแลนด์ สาขารามคำแหง เจ้าหน้าที่ก็พบกับชายชาวฮ่องกงที่มายืนรออยู่

ก่อนที่ชายต้องสงสัยจะพาเจ้าหน้าที่ไปรับยาเสพติดที่สั่งไว้ที่ลานจอดรถ อาคารชุดบดินทร์สวีตโฮม ย่านวังทองหลาง

แต่เมื่อเดินทางไปถึงก็ต้องตกตะลึง เมื่อชายที่นำยาเสพติดมาส่ง ให้นั่นคือ นักร้องโจ๋ชื่อดัง ‘แพท พาวเวอร์แพท’นายวรยศ บุญทองนุ่ม

หลังจากนักร้องดังรายนี้ส่งมอบยาเสพติดจนเสร็จสรรพ สายล่อซื้อจึงส่งสัญญาณให้ตำรวจที่ดักซุ่มสังเกต การณ์อยู่บุกเข้าจับกุมไว้ทันควัน

จากการตรวจค้นพบยาอี 1,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำกำลังขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 312 ของอาคารชุดดังกล่าว

ล่าสุด ”น.ช.วรยศ บุญทองนุ่ม” หรือ ”แพท” อดีตนักร้องนำวงพาวเวอร์แพท กลับมาเรียนต่อจนจบในเรือนจําศึกษาจบนิติศาสตร์บัณฑิต จาก มสธ. ครับ

พอล แกสคอยน์

อันดับ 10 พอล แกสคอยน์
สมัยยังโลดแล่นในสนาม พอล แกสคอยน์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะมากพรสวรรค์ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษ แต่ด้วยความติสต์และนิสัยแสบซ่าที่มีเป็นทุนเดิม นอกสนาม “แก๊ซซ่า” จึงใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงโดยไม่สนใจอะไรใดๆ แม้แต่น้อย

หลังแขวนสตั๊ดไปแล้ว เรื่องราวของอดีตซุปเปอร์สตาร์ของนิวคาสเซิลและสเปอร์สจึงวนๆ เวียนๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์เมืองผู้ดีอยู่เป็นระยะๆ ซึ่ง

ผลจากการใช้ชีวิตแบบเละตุ้มเป๊ะต่อเนื่องยาวนานทำให้สภาพร่างกายของเขาย่ำแย่ถึงขั้นเคยโดนหามส่งห้องฉุกเฉิน ก่อนมีข่าวชวนระทึกตามมาว่า แก๊ซซ่าอาการ “เป็นตายเท่ากัน” เลยทีเดียว!

แต่ที่สุดแล้วเขาก็ผ่านมันมาได้ และประสบการณ์ครึ่งเป็นครึ่งตายบนเตียงวันนั้นก็เป็น “บทเรียน” เตือนใจว่า อย่าหาเรื่องให้ต้องเจออะไรอย่างนี้อีก และปฏิญาณกับตัวเองว่าจะเลิกเหล้าจริงจังเสียที

นอกจากประสบการณ์ดังกล่าวแล้ว สิ่งสำคัญที่ช่วยให้เขายืนหยัดขึ้นมาได้คือกำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนฝูงในวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เปิดดีวีดีข้อความที่คนส่งมาให้ในช่วงรับการบำบัด

หนึ่งในข้อความทรงพลังที่ทำให้แก๊ซซ่าฮึดสู้คือไม่กี่ประโยคจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เป็นตัวแทนนักเตะและสต๊าฟโค้ชของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอกผ่านความห่วงใยไปถึง

“ผมอึ้งไปเลยตอนเซอร์อเล็กซ์บอกผมว่าต้องเข้มแข็ง ย้ำว่าผมเป็นนักสู้ ต้องผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ เพราะยังมีเขาและอีกหลายคนที่คอยเป็นกำลังใจให้อยู่”

…เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเมื่อเทียบกับความพยายามหลายครั้งที่ผ่านมา แต่เพียงแค่การเริ่มต้น ยังบอกไม่ได้ว่านับจากนี้จะเป็นอย่างไรคงส่งกำลังใจไปให้กันยาวๆ ทีเดียว

คุณเป็นคนมีน้ำใจ ขอบคุณที่กด Like.ให้ครับ

ที่มา : postjung.com