นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมยังไม่ปรับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลจาก 0.005 บาทต่อลิตร เป็น 1.50 บาทต่อลิตร ในวันที่ 1 ต.ค. 2556 ที่ระบุไว้ในเอกสารงบประมาณปี 2557 ที่การเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต จะต้องมีการเก็บภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นหลังจากลดลงมาเป็นเวลานานหลายปี

นายสมชาย กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลเป็นเรื่องของฝ่ายนโยบายที่จะตัดสินใจ แต่กรมเห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่เหมาะสมที่จะปรับขึ้น เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับช่วงที่นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ที่กำกับดูแลกรมสรรพสามิต ออกมาระบุว่าจะปรับขึ้นภาษีดีเซล ช่วงนั้นราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ที่ 98-99 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การงดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล จะไม่กระทบกับการเก็บภาษีของกรม เพราะคาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2556 ในเดือน ก.ย. นี้ จะเก็บภาษีเกินเป้าอยู่ 2 หมื่นล้านบาท จากภาษีรถยนต์ที่เกินเป้าสูงจากนโยบายรถคันแรก ทำให้มั่นใจว่าการเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2557 จะได้ตามเป้าแม้ว่ายังไม่ต้องขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล

สำหรับก่อนหน้านี้ กรมสรรพสามิตคาดว่า หากเก็บภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 1.5 บาทต่อลิตร จะทำให้เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือ ปีละ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยการลดภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาทต่อลิตร จากลิตรละ 5.3 บาทต่อลิตร ทำให้สูญเงินภาษีไปปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท

ทั้งนี้จากปัญหาสงครามในซีเรียทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากสหรัฐใช้กำลังเข้าโจมตีซีเรีย ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากกว่า 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวค่อนข้างมากในช่วงต่อไป

ที่มา : โพสต์ทูเดย์