ยาผิดซอง องค์การเภสัชฯ ยันยาสลับแค่ 50-100 เม็ด จากการสุ่มคุณภาพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          องค์การเภสัชกรรม ยันเหตุบรรจุยาผิดซอง สลับยาแค่ 50-100 เม็ด จากการสุ่มตรวจคุณภาพในห้องแล็บ เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าว 9 กันยายน 2556

          จากกรณีที่ทางองค์การเภสัชกรรมประสบปัญหาการบรรจุยาผิดซอง คือ บรรจุยาไอโซซอร์ไบด์ไดไนเตรต ( Isosorbide dinitrate) ซึ่งเป็นยาขยายหลอดเลือด ใช้ในการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเป็นหลัก ลงในซองยาแอมโลดิปีน(Amlodipine) ซึ่งเป็นยาลดความดันโลหิต และกระจายไปยังโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 7 แห่ง ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

          ล่าสุดวันนี้ (8 กันยายน 2556) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 9 กันยายน 2556 จะแถลงข่าวผลการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จำนวนยาที่มีปัญหาไม่ได้มากมายอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน ยาล็อตดังกล่าวมีประมาณ 6 แสนเม็ดจริง แต่ยาที่บรรจุผิดซองนั้นพบว่า มีประมาณ 50-100 เม็ด ซึ่งเกิดจากช่วงที่ต้องนำยาออกมาสุ่มตรวจคุณภาพในห้องแล็บ โดยตามขั้นตอนการผลิด เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จจะต้องทิ้ง แม้คุณภาพยาจะดีก็ตาม แต่ปัญหาในครั้งนี้คือ เมื่อตรวจคุณภาพเสร็จแล้ว คนทำกลับไม่ทิ้ง เพราะอาจเห็นว่ายาใช้ได้ จึงนำเทกลับเข้าระบบผลิต ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสลับยาระหว่างบรรจุได้

          อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นพ.ประดิษฐ สินธวรณงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)  เผยว่า เหตุบรรจุยาผิดซองในครั้งนี้ เริ่มพบผิดสังเกตที่โรงพยาบาลมะการักษ์ จ.กาญจนบุรี โดยเภสัชกรประจำโรงพยาบาลสังเกตเห็นความผิดปกติและได้แจ้งมาทางกระทรวงสาธารณสุข ตนเองจึงสั่งหยุดจ่ายยาและเรียกคืน พร้อมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ตรวจสอบเรื่องนี้ โดยทาง อภ. ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าปัญหาเกิดขึ้นจากอะไร คือมีการพูดกันว่าเกิดจากขั้นตอนการผลิตช่วงกลางคืน ซึ่งตนเองมองว่าไม่ใช่เหตุผล จึงขอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ และขอให้มีส่วนร่วมจากผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ห้ามปิดบัง ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้สาธารณชนทราบเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นด้วย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

Credit: http://health.kapook.com/view70736.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...