"ปู"ถกใหญ่-แก้ราคาตก

ได้ ข้อยุติแล้วตกลงยางพารากิโลฯ ละ 90 บาท ม็อบชะอวดพอใจเลิกปิดถนน รถวิ่งได้แล้ว ขณะที่รถไฟสายใต้ก็สัญจรได้แล้วเช่นกัน "ประชา"ยันช่วยเหลือภายใน 7 วัน แต่แกนนำท่าศาลา ยังไม่ยอม นัดชุมนุมใหม่ 14 ก.ย. ที่บางสะพานวุ่นหนัก ม็อบคึกเผารถนักข่าววอด 2 คัน ทุบตร.ถึงกะโหลกร้าว จนท.เจ็บระนาว จับ 12 แกนนำดำเนินคดี ผบ.ตร.ลงพื้นที่ให้กำลังใจ เผยม็อบพยายามสร้างสถานการณ์ กำชับตร.ใจเย็นดำเนินการตามกฎหมาย "ปู"ถกร่วมเอกชนแก้ปัญหายางราคาตก 



ม็อบประจวบป่วนเผารถ

จาก กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเกษตรกรสวนยาง พารา จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปิดถนนเพชรเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเกิดบาดเจ็บหลายราย รวมทั้งพล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก. ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ถูกถุงน้ำกรดกัดยางขว้างใส่ และสถานการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการยึดรถสิบล้อและรถบรรทุกน้ำมันไปจอดขวางถนนตามที่เสนอไปก่อนหน้านี้ 

ความ คืบหน้าในกรณีนี้กล่าว เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ก.ย. กลุ่มผู้ชุมนุมที่ยังปิดถนนเพชรเกษมเริ่มก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น โดยได้เผารถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ของผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ไหม้หมดทั้งคัน และเผารถกระบะ นิสสันเอ็นวี สีบรอนซ์ของน.ส.พิมพร อยู่รุ่ง นักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เสียหายบริเวณกระบะหลังโดยรถทั้ง 2 คันจอดอยู่บริเวณป้อมตำรวจ ที่อ.บางสะพาน ใกล้กับผู้ชุมนุม 

นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังโปรย ตะปูเรือใบบนถนนเพชรเกษมหลายจุด เป็นระยะทางยาวหลายก.ม. ทำให้รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างหัวหินที่เข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 3 คัน ยางแตกหมดทั้ง 4 ล้อ สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายมาก จนกระทั่งเวลา 02.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเริ่มสลายตัว



"ประชา"แจงใช้แก๊สน้ำตา 

นาย วีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบ คีรีขันธ์ กล่าวว่า ช่วงดึกที่ผ่านมาขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินทางกลับ พบการขว้างปาก้อนหิน จุดระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ ขณะที่วัยรุ่นดื่มสุราแล้วจึงยิงหนังสติ๊กหรือจุดประทัดยักษ์ เข้าไปใส่สถานีตำรวจซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เผารถยนต์จนเสียหาย ตำรวจจึงได้ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อป้องกันตัว กลุ่มวัยรุ่นจึงหนีไป ซึ่งได้ประกาศให้เป็นพื้นที่พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อจำกัดเขต พื้นที่ห้ามเข้าห้ามมีการชุมนุม

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีส.ส.ประชาธิปัตย์ ระบุตำรวจทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมที่อ.บางสะพาน ว่า ไม่รู้ว่าส.ส.ประชาธิปัตย์เอามาจากไหน ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อกลุ่มชุมนุมปิดล้อมตำรวจ ทำลายทรัพย์สิน เผารถยนต์ผู้สื่อข่าว จึงต้องใช้แก๊สน้ำตาให้ยุติ โดยไม่มีผู้ชุมนุมบาดเจ็บ 



เผยจนท.เจ็บ 28 สาหัส 2

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้บาดเจ็บที่ส่งมารักษาที่ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 รายอาการสาหัส ได้แก่ด.ต.สุชาติ จ่ามา ผบ.หมู่ กก.สส.บก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วยราชการสภ.บางสะพาน โดยนพ.จุมพล ฟูเจริญ รองผอ. ร.พ.ประจวบ คีรีขันธ์ เผยว่า ผู้บาดเจ็บมีแผลที่ศีรษะ กะโหลกยุบ แต่ไม่มีอาการทางสมอง ไม่พบเลือดออกในสมอง ที่ลำตัวและแขนมีแผลไหม้จากของร้อน ส่งตัวไปรักษาต่อที่ร.พ.หัวหิน ขณะที่การปะทะเมื่อคืนที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 28 ราย สาหัส 2 ราย ประชาชนบาดเจ็บ 30 คน ถูกส่งไปรักษาตัวที่ร.พ.บางสะพาน ร.พ.ทับ สะแก และร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ 

สำหรับรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บ ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข พ.ต.ท.กฤษณรักษ์ วงษ์งาม ด.ต.ชุมพล จันทร์นะ ด.ต.สุชาติ จำมา ด.ต.นพดล น้ำดอกไม้ ด.ต.เกษม เทพสวัสดิ์ จ.ส.ต.อภิวัฒน์ รักสัตย์ ด.ต.อนันต์ อุ่นเจริญ ด.ต.วรรณบูรณ์ ดวงทิพย์ ด.ต.ศักดิ์โชติ คนแก้ว ด.ต.สายชล นาคใหญ่ ส.ต.อ.ประยุทธ์ จันทร์หอม ด.ต.ฉัตรชัย โพธิ์ทอง ด.ต.นันทวัฒน์ วิบูลย์ ร.ต.ท.วีระชาติ พันธ์โภคา ด.ต.สุรเชษฐ บัวเหลา ร.ต.ท.สำเร็จ ศรีสุรีย์ ด.ต.จักรภิวรรธต์ ยี่โถ ด.ต.สายชล นาคใหญ่ จ.ส.ต.อภิวัฒน์ รักประสิทธิ์ ด.ต.สมชาย สุนทร ด.ต.มนู มั่นคง ด.ต.สมพร ดอกสาคู จ.ส.ต.นาประสิทธิ์ ศรีดา ด.ต.ยุทธนา แสงขาว ด.ต.สมญารัตน์ ฤทธิ์บัว นายอรุณ แสงฉาย อส.ประจวบฯ และด.ต.สุชาติ จ่ามา 



ผบ.ตร.รุดตรวจพื้นที่ 

ต่อ มาเวลา 07.30 น. พ.ต.อ.วิรัช ทองไทย หัวหน้าพฐ. บก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทีมพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบนถนนเพชรเกษม ก.ม.ที่ 413 หน้าหน่วยบริการประชาชนบ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล จนกระทั่งเวลา 09.00 น. ก็ยังไม่สามารถเปิดถนนเพชรเกษมให้สัญจรทั้งขาขึ้นและขาล่องได้ โดยต้องประชาสัมพันธ์ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงเข้าอ.บางสะพาน เลียบชายทะเลเชื่อม อ.บางสะพานน้อย 

เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.หาญพล นิตวิบูลย์ ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดปะทะโดยตรวจสอบรถบรรทุกผู้ต้องขังที่ถูกกระสุนปืนยิงที่ กระจกด้านซ้าย และรถผู้สื่อข่าวที่ถูกเผา พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจชุดปราบจลาจล พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าว มีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงขึ้น เพื่อให้ตำรวจใช้มาตรการทางกฎหมาย ซึ่งตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ตามแผนและขั้นตอนที่วางไว้อย่าง เคร่ง ครัด และปฏิบัติการด้วยความชอบธรรม

"สถานการณ์ดังกล่าวมีการ ยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ โดยใช้สิ่งเทียมอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก หนังสติ๊กยิงหัวนอต น้ำกรด ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเต็มความสามารถในการดูแลพื้นที่ เพื่อให้การสัญจรเดินทางผ่านไปได้ ซึ่งเราจะรวบรวมหลักฐานไว้ดำเนินคดีต่อไป ส่วนการชุมนุมอาจจะมีอีกนั้น เจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการดูแลเพื่อให้เส้นทางใช้ได้และคงฝากเตือนไปยังพี่ น้องประชาชนว่าอย่าเป็นเครื่องมือของกลุ่มซึ่งไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ซึ่งการเรียกร้องขอให้ใช้ในการเจรจาดีกว่าแต่เมื่อมีปัญหาเราก็ต้องดำเนิน คดีกับผู้ก่อการซึ่งมีโทษถึง 5 ปี" พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว จากนั้นพล.ต.อ. อดุลย์ เดินทางไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้บาดเจ็บที่ร.พ.ทับสะแก



เปิดเพชรเกษมตอนเที่ยง

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จนกระทั่งเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่เคลียร์ผิวการจราจรเก็บกวาดตะปูเรือใบ บริเวณจุดชุมนุมและเปิดการจราจรบนถนนเพชรเกษมทั้งขาขึ้น-ขาล่องได้เรียบร้อย 

เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.พิมพร อยู่รุ่ง ผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 3 และน.ส.ณัฐธิชา สังข์ทอง ผู้สื่อข่าว น.ส.พ.เดลินิวส์ ประจำจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ เข้าพบ ร.ต.ท.สมจิตร ตูมตาม พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกรณีถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเผารถยนต์

พล.ต.ต. ธเนษฐเผยว่า ล่าสุดทราบแล้วว่าวัยรุ่นที่ก่อเหตุเผารถยนต์ของผู้สื่อข่าวเป็นใคร โดยมีทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ ซึ่งเข้ามา สร้างสถานการณ์ให้มีความรุนแรง จึงรวบ รวมพยานหลักฐานขยายผลเพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ออกหมายจับ ส่วนแกนนำที่ถูกจับกุมตัวทั้งหมดขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบปากคำตามขั้น ตอน



ตร.รวบ 12 แกนนำม็อบ

ด้านนายสันทัด เดชเกิด แกนนำม็อบชาว สวนยาง อ.บางสะพาน กล่าวว่า ชาวสวนยางในพื้นที่เตรียมร่วมชุมนุมอีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแสดง ความรับผิดชอบกรณีผู้ชุมนุมบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา และระเบิดปิงปอง รวมทั้งกรณีที่จับกุม 12 แกนนำไปควบคุมตัวที่กก.ตชด.ที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า ส่วนกรณีเกิดไฟไหม้รถของสื่อมวลชนยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นใน พื้นที่หรือไม่ 

สำหรับผู้ต้องหา 12 คน ประกอบด้วย 1.นายมานพ ชินโสด ชาว อ.บางสะพาน 2.นายพัฒนพงษ์ ชายชาติ ชาว อ.บางสะพานน้อย 3.นายจำลอง ดีทองอ่อน ชาว อ.บางสะพาน 4.นายสมชาย บุญภูษิต ชาว อ.บางสะพาน 5.นายวุฒิกร รักษาเคน ชาวจังหวัดมุกดาหาร 6.นายศักรินทร์ ไชยแก้ว ชาว อ.บางสะพาน 7.นายสิทธิชัย ทิพย์จันทร์ ชาว อ.บางสะพานน้อย 8.นายเกรียงศักดิ์ แสงทอง ชาว อ.บางสะพานน้อย 9.น.ส.พัฒนรัฐ พุ่มไชย ชาว อ.บางสะพาน 10.นางประไพ อยู่ขวัญ ชาว อ.ปะทิว จ.ชุมพร 11.น.ส.หทัยรัตน์ แสงมณี ชาว อ.บางสะพานน้อย และ 12.น.ส.สมพร จันทร์ทอง ชาว อ.บางสะพาน



"ปู"หัวโต๊ะประชุมแก้ยาง 

อีก ด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าราคายางพารา มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประธานสภาอุตสาหกรรม นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตัวแทนจากสมาคมยางไทย ตัวแทนจากบริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ บริษัทบริดจสโตน สยามมิชลิน และภาคอุตสาหกรรมที่ผลิตและส่งออกยางพารา โดยที่ประชุมวางมาตรการแก้ไขปัญหา อาทิ การสนับสนุนผลิตถุงมือยาง การทำถนนด้วยยางพารา และกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมให้ใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเจรจากับจีนเพื่อให้รับซื้อยางพาราจากไทย โดยเชื่อว่าช่วงไตรมาส 3-4 ราคายางพาราในตลาดโลกจะมีมูลค่าสูงขึ้น 



วอนม็อบหันหน้าคุยกัน 

เมื่อ เวลา 12.00 น. ที่เมืองทองธานี น.ส. ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงข้อเสนอของม็อบยางพาราให้ประกันราคายางแผ่นที่กิโลกรัมละ 100 บาท ว่า ต้องรอฟังคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคายางที่มีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ เป็นประธาน ลงไปหารือ ทั้งนี้ ผลการประชุมภาคอุตสาหกรรมกลางน้ำและปลายน้ำ ก็หารือได้ข้อสรุปว่าภาครัฐจะเร่งส่งเสริมนโยบายแปรรูปยางให้มากขึ้น เบื้องต้นกระทรวงการคลังกำหนดวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท และให้ภาครัฐเพิ่มการใช้ยางพารา อาทิการทำถนน ฟุตปาธ ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ดูแลประชาชนทุกพื้นที่แม้ไม่ใช่พื้นที่หาเสียงของพรรคเพื่อไทยก็ตาม 

เมื่อ ถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมประกาศยกระดับภายใน 7 วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่อยากเห็นเหตุการณ์ความรุนแรง และไม่อยากเห็นเยาวชนมาร่วมชุมนุม แต่อยากเห็นการแก้ปัญหาภาคการเกษตรจริงๆ มากกว่านำประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงขอร้องผู้ชุมนุมว่ารัฐบาลยินดีพูดคุย จึงน่าใช้เวทีพูดคุยหาทางออกร่วมกันมากกว่า ไม่อยากให้กระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประเทศ 



รบ.โต้หนุนหลังม็อบปิดถนน

ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวระหว่างการเป็นประธานการประชุมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบายการจัดทำแผนงานในปีงบประมาณ 57 ว่า ราคาพืชผลไม่ได้ตกต่ำ แต่เป็นปัญหาของกลุ่มคนที่เคยขายได้ราคามาก อยากได้ราคาสูงขึ้นอีก ขณะที่รัฐบาลพยายามช่วยเหลือเกษตรกรไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคน กลาง จึงเกิดกระเพื่อมของกลุ่มที่กำไรลดลง ต้องการทำลายสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ เพื่อกลับไปสู่สถานภาพที่ได้รับประโยชน์มากกว่า จึงขอให้ผู้ว่าฯ ช่วยศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย 

นายจารุพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีการปิดถนนเพชรเกษมที่ อ.บางสะพาน นายกฯ กังวลเพราะไม่ต้องการให้เกิดการปิดถนนที่เกินขอบเขต เพราะทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจ การขนส่ง จึงต้องมีมาตรการควบคุมว่าการชุมนุมทำได้ แต่ห้ามปิดถนน 

ที่ทำเนียบ รัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดถนนที่สี่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด เป็นมวลชนของพรรคเพื่อไทย ว่า ไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทยจะจ้างม็อบมาล้มรัฐบาลของตัวเอง เชื่อว่าเป็นมุขใหม่เพื่อสร้างกระแสเท่านั้น อีกทั้งส.ส.ประชาธิปัตย์ก็แวะเวียนไปเยี่ยมม็อบบ่อยครั้ง จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าจริงๆ แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้สนับสนุนม็อบยางหรือไม่



"ประชา"ลงใต้ถกม็อบยาง 

ก่อน หน้านี้เมื่อเวลา 07.45 น. ที่กรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.) พล.ต.อ.ประชา ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหายาง พารา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯและรมช.เกษตรฯ นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกฯ ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเจรจาพูดคุยกับแกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อรับฟังข้อเรียกร้องเสนอต่อกนย.และครม.ต่อไป

ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.อ.ประชา และคณะร่วมประชุมกับกลุ่มเกษตรกรสวนยางพารา จ.นครศรีธรรมราช โดยมีตัวแทนชาวสวนยางเข้าร่วมหารือ โดยนายอำนวย ยุติธรรม ตัวแทนชาวสวนยางจากอ.ท่าศาลา กล่าวว่าเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยชดเชยราคายางพาราให้อยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท เพราะค่าครองชีพสูงขึ้น ส่วนเงินชดเชย 1,260 บาทต่อไร่ นั้นเป็นการแก้ไขไม่ตรงจุด เพราะผลประโยชน์ตกอยู่ที่เจ้าของสวนยาง และการตัดยางของภาคใต้ใช้ระบบลูกจ้างโดยแบ่งรายได้ 60 ต่อ 40 

ขณะ ที่พล.ต.อ.ประชา ระบุว่ารัฐบาลรับได้ในราคากิโลกรัมละ 90 บาท จนกลุ่มผู้ชุมนุมขอออกจากห้องประชุมไปหารือนอกรอบก่อนกลับมาเสนอที่กิโลกรัม ละ 95 บาท 



สรุปจบที่กก.ละ 90 บาท

จนกระทั่ง เวลา 17.00 น. พล.ต.อ.ประชา ยืนยันการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราในการตรึงราคากิโลกรัมละ 90 บาท โดยระบุว่าหลังจากการหารือและกระแสข่าวกระจายไปทั่วประเทศทำให้ชาวสวนยาง ส่วนใหญ่รับได้และยอมสลายการชุมนุมแล้ว จึงอยากให้ตัวแทนยอมรับ โดยจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าวใน 7 วัน 

ขณะที่นาย อำนวยแกนนำชาวสวนยางจาก อ.ท่าศาลา เปิดแถลงข่าวทันทีว่า รัฐบาลไม่จริงใจแก้ปัญหา เพราะเราเรียกร้องในราคากิโลกรัมละ 100 บาท และยอมลดลงมาเหลือ 95 บาท แต่รัฐบาลกลับประกาศช่วยเหลือที่กิโลกรัมละ 90 บาท โดยอ้างว่าชาวสวนยางส่วนใหญ่พอใจ จึงขอนัดชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางที่ไม่พอใจมาตรการดังกล่าว ในวันที่ 14 ก.ย. เวลา 14.00 น. ที่อ.ท่าศาลา โดยจะชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ 



ม็อบชะอวดเปิดถนนแล้ว 

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปิดถนนเอเชียสาย 41 ในการเรียกร้องราคายางพาราตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดชาวสวนยางที่ปักหลักชุมนุม ยินยอมสลายการชุมนุม และเปิดเส้นทางการจราจรแล้วตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยมีการช่วยกันเก็บสิ่งของและรื้อเต็นท์ โดยจะนำข้าวสารและของที่ได้รับบริจาคไปมอบให้กับวัดต่างๆ ในพื้นที่ เนื่องจากพอใจที่รัฐบาลช่วยเหลือราคายางกิโลกรัมละ 90 บาท เช่นเดียวกับที่สี่แยกหนองดี อ.นาบอน ก็สลายการชุมนุมและเปิดถนนแล้ว 



รถไฟใต้เริ่มให้บริการ 

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟสายใต้ทั้งทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ และขบวนรถท้องถิ่นเริ่มเปิดให้บริการเดินรถตามปกติแล้วเกือบทุก ขบวนยกเว้นรถเร็วที่ 170 ยะลา-กรุงเทพฯ ที่ริ้วขบวนค้างอยู่ที่กรุงเทพฯ หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางและสวนปาล์มยอมเปิดเส้นทางรถไฟระหว่าง สถานีบ้านตูลกับสถานีชะอวด จ.นครศรีธรรมราช 

ส่วนบรรยากาศที่สถานี รถไฟหาดใหญ่ในช่วงเช้ายังเงียบเหงาโดยขบวนแรกที่ออกจากหาดใหญ่ไปยังภาคใต้ ตอนบนเป็นขบวนรถท้องถิ่นที่ 446 หาดใหญ่-ชุมพร ซึ่งผู้โดยสารยังบางตาเนื่องจากบางส่วนอาจจะยังไม่ทราบข่าวการเปิดรถไฟ เช่นเดียวกับที่สถานีรถไฟตันหยงมัส เนื่องจากผู้โดยสารยังคงเกรงว่าจะมีการปิดเส้นทางระหว่างการเดินทางอีก จึงไม่กล้าใช้บริการรถไฟในระยะนี้



"เหนือ-อีสาน"พอใจ

ที่ จ.นครราชสีมา นายสิทธิพร เทพจันทรามณีฉาย ประธานเครือข่ายชาวสวนยางภาคอีสาน เผยว่า พอใจมติ กนย.ที่ขยายความช่วยเหลือราคาปุ๋ยชาวสวนยางพารา ไร่ละ 1,260 บาท จาก 10 ไร่ เป็น 25 ไร่ แต่ยังต้องรอดูในส่วนของรายละเอียดขั้นตอนการรับรองพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากมีเกษตรกรจำนวนมากปลูกยางอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา 

ที่ จ.พะเยา นายสาย อิ่นคำ นายทะเบียนสมาคมเครือข่ายเกษตรกร สถาบันเกษตรกรยางพาราไทย กล่าวว่า ยอมรับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ประกันราคากิโลกรัมละ 90 บาท และขอให้เร่งดำเนินการทันที 

ที่ จ.กระบี่ นายสุคนธ์ สวัสดิ์ภิรมย์ ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.กระบี่ กล่าวว่า ไม่ยอมรับแนวทางแก้ไขของรัฐบาลที่ชดเชยให้ไร่ละ 1,260 บาท แต่จะไม่ปิดถนนหรือปิดสนามบิน เพราะเกรงจะกระทบกับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ จะประท้วงด้วยอริยะขัดขืนด้วยการไม่ไปลงทะเบียนรับการช่วยเหลือ



ม็อบตรังก็เลิกปิดถนน 

ที่ จ.ตรัง เมื่อเวลา 20.30 น. นายศักดิ์สฤษฏ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง แถลงบนเวทีปราศรัยกลางสี่แยกอันดามัน ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด ประกาศยุติปิดถนนบริเวณสี่แยกอันดามัน นับตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย.เป็นต้นไป แต่ยังชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ ถนนตรัง-พัทลุง ในเขตเทศบาลนครตรังต่อไป ในเวลา 18.00-20.00 น.ทุกๆ วัน เพื่อติดตามข้อเรียกร้องจากทางรัฐบาล จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง 



ม็อบประจวบฯฮืออีก 

ต่อ มาเวลา 17.00 น. เกษตรกรชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันใน จ.ประจวบ คีรีขันธ์ เริ่มรวมตัวกันอีกครั้งที่ริมถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 413 บริเวณหน้าตลาดธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน หลังจากเกิดปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยแกนนำประกาศยกระดับมากขึ้น ซึ่งมีเกษตรกรทยอยกันเดินทางมาร่วมชุมนุมกันมากขึ้นเป็นระยะขณะที่เจ้า หน้าที่ตำรวจเตรียมระดมกำลังอีกรอบ พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดจับตาดูสถานการณ์ 

ด้านตัวแทนม็อบนำโดย นายวัชรินทร์ จันทร์เดช นายสันทัด เดชเกิด นายชาติไทย เรืองรักษ์ นายธีรพงศ์ แก้วนวล นายชวลิต เอียดแก้ว นายยินดี สุวรรณรัตน์ แถลงจะยกระดับการชุมนุมร่วมกับ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบนเพื่อจัดตั้งเป็นเครือข่าย เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ ระนอง สำหรับผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมได้ประสานทนายความประกันตัวเพื่อให้การช่วย เหลืออย่างเต็มที่