เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2556 นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตามที่คุณจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ซึ่งเป็นลูกค้าเช่าตู้นิรภัยของธนาคารฯ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากตรวจพบว่าทรัพย์สินที่เก็บไว้ในตู้นิรภัยหลายรายการได้สูญหายไปจากตู้นิรภัยที่สาขา โดยที่ไม่ได้อนุญาตให้ผู้ใดไปเปิดตู้ดังกล่าวนั้น

ธนาคารกสิกรไทยได้ทราบถึงปัญหาดังกล่าว และดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันที พร้อมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับคุณจักรกฤษณ์ ในการแก้ไขปัญหาอย่างดีที่สุด ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้จากทีวีวงจรปิดแล้ว พบว่า ผู้ที่มาขอเปิดตู้นิรภัยดังกล่าว เป็นภรรยาของคุณจักรกฤษณ์ 

สำหรับแนวทางปฏิบัติของการให้บริการตู้นิรภัยของธนาคารฯ ต่อลูกค้า ได้มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนและถือปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดย ธนาคารจะมอบกุญแจเปิดตู้ให้กับลูกค้าจำนวน 2 ดอก เมื่อลูกค้าประสงค์จะเปิดต้องนำกุญแจดอกใดดอกหนึ่งมาเปิดร่วมกับกุญแจที่ธนาคารเป็นผู้ดูแล ทุกครั้งที่เปิดจะต้องมีการกรอกแบบฟอร์มขอเปิดตู้ ซึ่งพนักงานจะตรวจสอบลายเซ็น พร้อมกุญแจของลูกค้า หากถูกต้องจึงอนุญาตให้เปิดตู้ได้ 

ในกรณีคุณจักรกฤษณ์พนักงานเห็นว่าเป็นภรรยา และได้รับมอบกุญแจมา จึงให้ความสะดวก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ธนาคารยินดีช่วยเหลือและร่วมมือกับคุณจักรกฤษณ์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งธนาคารฯ หวังว่าเหตุการณ์นี้จะคลี่คลายไปในทางที่ดีต่อไป ทั้งนี้ ได้มีการกำชับพนักงานของธนาคารในการปฏิบัติงานตามระเบียบของธนาคารอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังเช่นกรณีนี้ขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 4 กันยายน นายจักรกฤษณ์หรือเอ็กซ์ นักกีฬายิงปืนชื่อดัง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.มารุต บัณดิษฐโต พงส.สน.บางชัน ให้ดำเนินคดีกับ พญ.ณิธวดี ภู่เจริญยศ อายุ 38 ปี ภรรยา และธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุขาภิบาล 3 ในข้อหาลักทรัพย์ เป็นพระเครื่อง ทองรูปพรรณ ทองแท่ง เครื่องเพชร มูลค่า 60 ล้านบาท
 
นายจักรกฤษณ์ให้การว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำทราบว่าทางภรรยาเข้าไปนำทรัพย์สินที่ฝากไว้ในตู้นิรภัยของธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล 3 ไป หลังได้ประกันตัวจึงเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางชันเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม และติดต่อไปยังธนาคารว่าปล่อยให้ภรรยาเข้าไปนำทรัพย์สินออกไปได้อย่างไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊คกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline