ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดความวุ่นวายระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ในมาตรา 5 ระหว่างการการอภิปรายของ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
โดยนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ต่อว่านายบุญยอด พร้อมกับชี้นิ้วอย่างมีอารมณ์ที่กล่าวหาว่า ตนเองนั่งสัปหงกขณะขึ้นทำหน้าที่ประธาน ทำให้ตนเสียหาย ขอให้ผู้อภิปรายมีมารยาท และคนอย่างตนฆ่าได้หยามไม่ได้ อย่าได้พูดใส่ร้ายเช่นนี้อีก ทำให้นายบุญยอดเงียบและอภิปรายต่อ แต่ก็ยังมีสมาชิกหลายคนได้ประท้วงการอภิปรายของนายบุญยอดที่ออกนอกประเด็น โดยเฉพาะ พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า อย่ากล่าวหาประธานวุฒิสภาของตนโดยไม่เป็นความจริง ซึ่งนายนิคมก็ได้ตัดบทว่าจะทำหน้าที่ควบคุมการประชุมเอง
อย่างไรก็ดี การอภิปรายของนายบุญยอดก็ไม่ราบรื่น เพราะมีเสียงโห่และตะโกนแข่งเป็นระยะ โดยมีเสียงหลุดออกมาดังลั่นว่า “ตุ๊ด” ทำให้นายบุญยอดไม่พอใจอย่างมากและกล่าวอย่างมีอารมณ์ท้าท้ายว่า “ถ้าใครพูดขอให้มายืนใกล้ๆเลยจะดีกว่า และขอให้กล้าแสดงตัวออกมา คนอย่างผมมีครอบครัว และดูแลดี”
ขณะนั้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ขอลุกขึ้นประท้วงและถูกนายบุญยอดอ้างว่านายจิรายุรู้จักผมดีว่าเป็นอย่างไร แต่ปรากฏว่านายจิรายุตอบทันควัน “ผมก็ไม่แน่ใจครับ” ยิ่งสร้างบรรยากาศตึงเครียดมากขึ้น จนเพื่อนส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ช่วยลุกขึ้นประท้วงขอให้บุคคลที่กล่าวหาถอนคำพูด
ทั้งนี้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ยอมรับในที่ประชุมแล้วว่าเป็นคนพูด ขณะที่นายกุลเดช พัวพัฒนากุล ส.ส.อุทัยธานี พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงกลับอีกว่า “ถ้าผมจะพูดบ้างว่า ถ้าจ่าประสิทธิ์หัวเป็นเชื้อรา ขี้กลากกินหัว จะเป็นอย่างไร” ในที่สุดนายนิคมได้ไกล่เกลี่ยและยอมให้นายบุญยอดได้อภิปรายต่อ แต่นายบุญยอดก็ยังไม่ยอมหยุดพาดพิงนายนิคมต่อ โดยอภิปรายตอนหนึ่งว่า ถ้ายอมให้แก้ที่มาส.ว.หลังจากพ้นวาระดำรงตำแหน่งทางการเมืองสามารถลงสมัครต่อได้ทันที อย่างนี้ตนก็สามารถลงพื้นที่ฉะเชิงเทราแข่งกับนายนิคมได้เช่นกัน ทำให้นายนิคม ตัดบททันที และกล่าวว่า คนอย่างผมก็สามารถลงพื้นที่กทม.เลือกตั้งได้เหมือนกัน ดังนั้นอย่ามาท้าทายกันอีก