"พงศพัศ" เดินสายรับฟังประชาชน เก็บข้อมูลวิถีชาวบ้านกับใบกระท่อม

ชาวนาเปิดใจเคี้ยวก่อนลงนา วันไหนไม่ได้เคี้ยวพานไม่มีเรี่ยวแรง หลังเจ้าหน้าที่ตัดต้นทิ้งหมด ต้องถากเปลือกต้มน้ำกินแทน ยันหนุ่มจนแก่เข้าวัย 69 สุขภาพดี ไม่เจ็บไม่ป่วย เลขาฯ ป.ป.ส.เผยหลังรับฟัง พบใบกระท่อมเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต โดยชาวบ้านขอว่าหากถอนจากบัญชีสิ่งเสพติดไม่ได้ ขอโทษแค่ปรับไม่ต้องติดคุกก็ยังดี

 เมื่อวันที่ 4 ส.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมคณะเดินทางมาที่สน.ลำหิน เพื่อลงพื้นที่เขตหนองจอก เพื่อรับฟังข้อมูลจากประชาชนในเรื่องใบกระท่อม โดยมี พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) ให้การต้อนรับพร้อมทั้งบรรยายสภาพพื้นที่และสถิติการจับกุม ใช้เวลา 10 นาที 

 จากนั้นพล.ต.อ.พงศพัศพร้อมคณะได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 8/2 ม.9 แขวงคลอง 10 เขตหนองจอก ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมัย ป้อมขุนพรม อายุ 58 ปี โดยภายในบ้านมีชาวบ้านราว 20 คน เดินทางมารอพบอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไปถึงพล.ต.อ.พงศพัศได้เข้าไปนั่งพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมทั้งรับฟังข้อมูลการใช้ใบกระท่อมของชาวบ้าน บรรยากาศเป็นไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

 โดยชาวบ้านยอมรับว่าต้องเคี้ยวใบกระท่อมก่อนจะออกไปทำงาน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีแรง และหากไม่ได้เคี้ยวจะมีอาการหงุดหงิดบ้าง แต่ที่เคี้ยวใบกระท่อมกันมา 10-20 ปี ทุกคนสุขภาพดี ไม่เคยเจ็บป่วยอะไร ใช้เวลาราว 1 ช.ม. 

 จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศได้เดินไปดูต้นกระท่อม 2 ต้น ที่หลังบ้านของนายสมัย ที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและตัดทำลายไปเมื่อวันพุธที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังตัดค้างเอาไว้ สำหรับต้นกระท่อมดังกล่าวเป็นต้นใหญ่ สูงราว 5 เมตร โดยพล.ต.อ.พงศพัศได้ทดลองใช้ขวาน และใช้เลื่อยคันธนูตัดต้นกระท่อม พร้อมกับให้ชาวบ้านช่วยกันดึงจนโค่นต้นกระท่อมลงได้ 

 ด้านนายชวน เอี่ยมทรัพย์ อายุ 69 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เขตหนองจอก เปิดเผยว่า ตนเคี้ยวใบกระท่อมก่อนจะออกไปทำนามานาน 20 ปีแล้ว โดยตนมีที่นา 20 ไร่ สามารถทำคนเดี่ยวได้ทั้งวัน แต่หากไม่ได้เคี้ยวใบกระท่อม จะไม่มีแรงทำงาน จะหงุดหงิดไม่อยากทำอะไรเลย ส่วนสุขภาพตนเองแข็งแรงดีไม่เคยเจ็บป่วย ความดัน เบาหวานปกติดี แต่มีที่แขนทั้ง 2 ข้างเป็นสีดำที่ผิวหนัง เพราะยางใบกระท่อม แต่เรื่องนี้บางคนก็เป็น บางคนก็ไม่เป็น โดยตั้งแต่ทางเจ้าหน้าที่มาตัดต้นกระท่อมไปหมด ก็หาใบกระท่อมเคี้ยวยาก บางวันไม่มีต้องใช้มีดถากเปลือกต้นกระท่อมมาต้มกินแทน ก็พอช่วยได้

 พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่เพื่อมาพบผู้ที่ใช้ใบกระท่อมในวิถีชีวิตประจำวัน คือใช้ตั้งแต่เช้ายันเย็น เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องที่ต้องมีการพิจารณาในหลายมิติ ซึ่งมิติในด้านวิชาการ และทางข้อกฎหมาย ทางป.ป.ส.มีเอกสารข้อมูลเยอะแล้ว แต่ในด้านวิถีชีวิตประจำวัน อยากให้พูดคุยกันในลักษณะที่เห็นจริงๆ ซึ่งก็ได้ข้อมูลว่า การใช้ใบกระท่อมของชาวบ้าน ต้องใช้จริงๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีแรงทำงาน และเป็นการใช้มา จากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่เพิ่งมาใช้ ที่ดูจากสภาพร่างกายชาวบ้าน ก็พบว่าบางรายก็มีผลกระทบบ้าง แต่บางรายก็ไม่มีผลอะไร

 พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ทางพี่น้องประชาชนก็ฝากว่า อยากให้การเคี้ยวใบกระท่อมในชีวิตประจำวันก่อนจะออกไปทำงาน ไม่เป็นความผิด หรือหากผิดก็ให้มีโทษแค่ปรับไม่มีโทษจำคุก นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า เด็กวัยรุ่นบางรายในชุมชนที่ติดยาบ้า ก็หันมาใช้ใบกระท่อมแทนเพื่อเป็นการเลิกยาด้วย สำหรับข้อมูลที่ได้วันนี้ จะได้นำเข้าที่ประชุม ในที่ 5 และวันที่ 6 ก.ย. นี้ เพื่อหาข้อสรุป จากนั้นจะนำเสนอนายชัยเกษม นิติศิริ รมว.ยุติธรรม ให้พิจารณาต่อไป 

 สำหรับกรณีใบกระท่อมนี้ กระทรวงยุติธรรมมีแนวคิดจะเพิกถอนใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 เนื่องจากออกฤทธิ์ในการเสพติดน้อยมาก เมื่อเทียบกับการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลังที่มีกาเฟอีนผสมอยู่ และใบกระท่อมยังเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตชาวบ้านที่ใช้เป็นยา ขณะที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่ได้ขึ้นบัญชีใบกระท่อมเป็นยาเสพติด นอกจากนั้นยังเป็นการลดโอกาสที่จะใช้ความผิดเรื่องครอบครองใบกระท่อมกลั่นแกล้งชาวบ้านด้วย อย่างไรก็ดีในส่วนของผู้คัดค้านก็ยังกังวลว่า การยกเลิกอาจจะกลายเป็นการส่งเสริม และจะมีเด็กใช้ใบกระท่อมมากขึ้น
          

4 ก.ย. 56 เวลา 20:58 1,255
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...