วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส วัย 28 ปี (ซ้ายล่าง)

        ทายาทธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง “กระทิงแดง” วรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส วัย 28 ปี ถูกจ่อออกหมายจับหลังไม่ปรากฏตัวในการฟังข้อกล่าวหาในชั้นศาลในคดีซิ่งรถยนต์เฟอร์รารีใจกลางกรุงเทพจนชนตำรวจจราจร วิเชียร กลั่นประเสริฐ วัย 47 ปี แล้วหนี ในขณะที่นักท่องเนตต่างชาติวิจารณ์กันขรมถึงราคาชีวิตตำรวจผู้ตายเมื่อเทียบกับมูลค่าอาณาจักรกระทิงแดง และระบบยุติธรรมไทยที่เอื้อให้ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายสามารถได้รับการประกันตัวด้วยจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย
       
       อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษอาญากรุงเทพใต้ ฤชา ไกรฤกษ์ เผยในวันจันทร์ (2) ว่าเขาจะขอศาลออกหมายจับในการที่วรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส วัย 28 ปี ไม่มาฟังข้อกล่าวหาในชั้นศาล ซึ่งวรยุทธหลานชายเจ้าสัวผู้ก่อตั้งกระทิงแดงถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีที่เขาขับรถเฟอร์รารีคู่ใจกลางกรุงเทพ และชนเข้ากับดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ วัย 47 ปี ที่กำลังปฎิบัติหน้าที่จนเสียชีวิตในตอนเช้าของวันที่ 3 กันยายน 2012 และเกี่ยวร่างไปไกลกว่า 200 เมตร ก่อนขับหลบหนีไป
       
       “จะออกหมายจับผู้ต้องสงสัยในวันอังคาร (3) และผู้ต้องหาสามารถถูกรวบตัวได้ตลอดเวลาที่ไหนก็ตามในเขตประเทศไทย”ฤชา อัยการระดับอาวุโสเผยกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(2)
       
       บอส วัย 28 ปีถูกตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและไม่หยุดให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน โดยทางทนายของวรยุทธ ธานิต บัวเขียว เผยว่าผู้ต้องหารายนี้ได้เดินทางออกไปทำธุระในต่างประเทศในวันพฤหัสบดี (29) และไม่สามารถเดินทางกลับมาทันขึ้นศาลได้ “บอสป่วยกะทันหันเลยทำให้เขาไม่สามารถบินกลับมาขึ้นศาลได้ทันภายในวันนี้” ทนายความจำเลยเผยต่อว่า วรยุทธ หลานชายเจ้าสัวผู้ก่อตั้งกระทิงแดงนั้นได้วางแผนที่จะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยภายใน 3 และจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่อัยการ
       
       จากข้อมูล ตระกูลอยู่วิทยารั้งตำแหน่งตระกูลร่ำรวยเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทยประจำปี 2013 ที่จัดลำดับโดยนิตยสารการเงินฟอร์บส์ ซึ่งภายหลังจากอุบัติเหตุทางญาติผู้เสียหายได้รับเงินช่วยเหลือจากตระกูลนี้เพียง 97,000 ดอลลาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผย
       
       และจากกระแสสื่อโลกออนไลน์ตะวันตกต่อข่าวการจ่อออกหมายจับทายาทกระทิงแดงครั้งนี้ร้อนแรงมาก นักท่องเนตเดวิดได้เข้ามาให้ความเห็นในกระทู้ข่าวของยาฮูนิวส์ว่า “ครอบครัวอยู่วิทยาครองแชมป์ความร่ำรวยติดอันดับ 4 ในประเทศไทย ที่มีทรัพย์สินราว 7.8 พันล้านดอลลาร์ แต่ให้เงินช่วยเหลือกับญาติผู้เสียชีวิตเพียง 93,000 ดอลลาร์ มันเป็นจำนวนเงินที่เล็กน้อยมาก หรือว่าค่าทนายความในคดีนี้ได้ 35%” และโรเบิร์ตให้ความเห็นว่า “จะให้ซื้อเครื่องดื่มเรดบูลหลังจากอ่านข่าวนี้นะเหรอ ผมไม่อยากจะสนับสนุนไอ้เด็กเหลือขอพันล้านคนนี้”

       ด้านเอเลนได้วิพากษ์ระบบยุติธรรมไทยว่า “นี่เป็นข้อหาที่ร้ายแรงมาก ในสหรัฐฯการที่ผู้ต้องหาจะออกมาได้ต้องจ่ายค่าประกันตัวเป็นจำนวนมหาศาล ระบบยุติธรรมของไทยทำให้ทุกอย่างดูมีราคาที่ต่ำเกินไป เลยทำให้ทุกคนที่กระทำความผิดไม่ต้องเข้าคุก”และจากเวปสื่อ MSNBC ของสหรัฐฯ มีชาวอเมริกันที่อาศัยในประเทศไทยได้ออกความเห็นว่า “ผมอยู่ในประเทศนี้ จากที่เป็นอยู่เห็นได้ว่าอัยการเพียงแค่คิดแต่ว่าจะออกหมายจับ แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเขาจะได้หรือเปล่า แต่ข่าวที่เสนอออกมาในโลกตะวันตกนั้นกลับทำให้เห็นว่า ทุกคนโกรธจนหัวหมุนและกำลังหาทางที่จะจับ ทายาทกระทิงแดงกระทิงแดงเข้าคุก แต่ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น”