ประเพณีดื่มวิสกี้ผสมนิ้วโป้งเท้า ที่ผ่านมา เมืองนิวออร์ลีน มีธรรมเนียมการดื่มเหล้าพร้อมนิ้วโป้ง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 1973 จากกรณีนายดิก สตีเฟ่นสัน ได้เจอนิ้วโป้งถูกตัดอยู่ในขวดดองเหล้า และเขาได้ซดมัน และตั้งเป็นกฎสำหรับหมู่เพื่อนฝูงของเขา ด้วยการกินแชมเปญในแก้วเบียร์พร้อมนิ้วโป้ง และทำให้คนอื่นหันมาทำตาม แต่กลายเป็นภาระสำหรับร้านเหล้าที่ต้องหานิ้วโป้งจากคนที่จะบริจาคให้แก่ลูกค้ารสนิยมพิศดารนี้ แต่ต้องตั้งกฎปรับเงินลูกค้าที่ดื่มนิ้วพร้อมเหล้า เพราะผิดกฏหมาย
ขณะที่นาย Joshua Clark ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เฮอริเคนแคทรีนาถล่มสหรัฐ สร้างความฮือฮาไปทั่วท้องถิ่นในเมืองนิวออร์ลีน หลังจากโชว์ความกล้า ซดนิ้วโป้งพร้อมเหล้า 1 ช็อต ตามธรรมเนียมฮิตในอดีตของเมืองนี้ โดยเจ้าตัวยอมควักเงินส่วนตัวกว่า 15,000 บาท เพื่อจ่ายให้เป็นค่าปรับของร้านที่ห้ามการดื่มพิศดารในลักษณะนี้ยังคงอยู่ในเมืองนิวออร์ลีนซึ่งพังราบเพราะพิษพายุถล่มและน้ำท่วม โดยเขาไม่ยอมทิ้งเมืองนี้ในช่วงเกิดวิกฤต และได้บันทึกภาพเหล่าผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และสำหรับนิ้วเท้าที่เขาซดกับเหล้านั้นเป็นของชายรายหนึ่ง ที่นิ้วโป้งขาดเพราะถูกอุบัติเหตุถูกเลื่อยไฟฟ้าตัด ซึ่งเจ้าตัวได้เก็บนิ้วโป้งไว้ และบริจาคให้แก่ร้านเหล้า เมื่อเดือนเม.ย.ปี 2002
นิ้วเท้่าวางไว้บนเกลือป่น
นิ้วเท้าที่ได้รับบริจาคมานี้ ทางร้านจะวางไว้บนเกลือป่น เพื่อรักษาสภาพนิ้วไว้ และประเพณีของการดื่มก็คือใส่นิ้วเท้าลงไปในแก้ววิสกี้ 1 ช็อต แล้วดื่มวิสกี้ให้หมด แต่ขณะดื่ม นิ้วเท้าต้องสัมผัสริมฝีปากด้วย
แต่สำหรับนายJoshua Clark แกไม่เพียงดื่มวิสกี้เท่านั้น แต่แก่เล่นกลืนเจ้านิ้วเท้าเข้าไปด้วยเลย ก็เลยเป็นที่ฮือฮากันอยู่ ณ เวลานี้ครับ เป็นยังไงครับ เพื่อนๆ ที่อ่านอยู่มีใครกล้าดื่มบ้างครับ
ก่อนดื่มฟังกฏก่อนครับ คือจะดื่มช้าหรือเร็วก็ได้ แต่นิ้วเท้าต้องแตะริมฝีปากนะ
ไม่ต้องแตะริมฝีปากแล้วครับ อ้าปากแล้วกลืนมันลงไปสิ้นเรื่อง
โรงแรมดาวน์ทาวน์ สถานที่ตั้งของบาร์ดังกล่าว
และนี่คือนิ้วเท้าที่ นายJoshua Clark กลืนเข้าไปครับ
แล้วนี่คือคลิปแห่งความภาคภูมิใจ
แปลและเรียบเรียงโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)