"โยยศวดี-อุ๋มอาภาศิริ" ไม่คาดคิดตกอับขนาดนี้ "ปวีณา"รุดเยี่ยม-รับดูแล "พงศพัศ"ช่วยบำบัดติดยา
เพื่อน วงการนางแบบร่วมสลด ชีวิตตกอับ "ยุ้ย รจนา" โดย "อุ๋ม-อาภาศิริ" นางแบบรุ่นพี่เผยพร้อมช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ เตือนวงการนี้มาไวไปไว ต้องใช้ชีวิตอย่างระวัง ขณะที่ "โย ยศวดี" เผยเคยร่วมเดินแบบด้วยกัน ตอนกลับเมืองไทยใหม่ๆ อู้ฟู่มาก เปิดร.ร.สอนเดินแบบ แต่สักพักมีข่าวเรื่องยาเสพติดจนค่อยๆ หายไป ระบุ "ยุ้ย" เคยปรับทุกข์ชีวิตตกต่ำมีปัญหาหลายอย่างรุมเร้า มีลูกกับอดีตผจก. แต่สุดท้ายเลิกรากันไป "ปวีณา" รุดเยี่ยมที่ยังรักษาตัวอยู่ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา พร้อมติดต่อญาติมาปรึกษา หากไม่พร้อมดูแล พม. จะช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน ขณะที"พงศพัศ" ประสานเข้าช่วยเหลือ หลังพบเคยรับการบำบัดยามาก่อน คาดกลับไปใช้อีกจนเกิดเป็นปัญหาชีวิต
จากกรณีเหตุสลดใจ อดีตนางแบบระดับโลกชื่อดังชาวไทย"ยุ้ย"รจนา เพชรกัณหา ชาวอุบลราชธานี วัย 37 ปี ที่เคยเดินแบบ-ถ่ายนิตยสารทั้งไทยและต่างประเทศมีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท กลายเป็น คนเร่ร่อนร่างกายทรุดโทรม โดยตำรวจพบ อยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มีอาการเหม่อลอยพูดจาวกวน จึงนำส่งสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน
เบื้อง ต้นพบว่า"ยุ้ย"รจนาเป็นนางแบบตั้งแต่อายุ 18 ปี โด่งดังระดับโลกส่วนใหญ่ทำงานอยู่ต่างประเทศ จนต่อมาเริ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและดื่มสุราอย่างหนัก ทำให้ร่างกายทรุดโทรมไม่สามารถทำงานได้จนถูกเลิกสัญญา สุดท้ายกลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อปี 2545 และแทบไม่มีงานในวงการอีกเลย ล่าสุดอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงที่จ.อุบลราชธานี เมื่อติดต่อไปที่ญาติระบุว่าอดีตนางแบบหนีออกจากบ้านและให้ตำรวจดำเนินการไป ตามสมควร ขณะที่นางแบบรุ่นพี่ที่เคยรู้จักทั้ง "ลูกเกด"เมทินี กิ่งโพยม "อุ๋ม"อาภาศิริ นิติพน และ"ซินดี้"สิรินยา เบอร์บริดจ์ ต่างสลดใจกับชีวิตที่ตกต่ำของอดีตเพื่อนร่วมวงการ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความ คืบหน้าเมื่อวันที่ 1 ก.ย. นางปวีณา หงสกุล รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางมาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของยุ้ย-รจนา ที่เข้าพักรักษาตัวอยู่อาคารพวงชมพู เข้าไปเยี่ยมเป็นเวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า หลังรับตัวเข้ามารักษา ทางพม.พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแล ประสานครอบครัวอีกทางเพื่อให้มาพบปะพูดคุยถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดัง กล่าว และหลังจากที่คุณยุ้ยรักษาตัวจนออกจากโรงพยาบาลไปแล้วนั้น จะได้มีที่อยู่ที่อาศัยและไม่กลับมาเร่ร่อนอีก ซึ่งในลักษณะนี้ทาง พม.ต้องการให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมและดูแลกันเองจะได้หา ทางออกได้
"ขณะนี้ต้องการให้ครอบครัวของคุณยุ้ยมาดูแล แต่ในส่วนที่ว่าจะมีความพร้อมหรือไม่นั้น กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานเนื่องจากต้องการให้คุณยุ้ยได้ฟื้นฟูสภาพจิตใจ เป็นอันดับแรก คาดว่าครอบครัวน่าจะรับสภาพความเป็นอยู่ของคุณยุ้ยได้ ส่วนตอนนี้คุณยุ้ยต้องการเพียงพบกับพี่ชายเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องอะไรอย่างอื่นอีก ที่ต้องประสานครอบครัวให้ได้เนื่องจากเกรงว่าหากออกจากโรงพยาบาลไปแล้วจะไม่ มี ที่อยู่อาศัย หรืออาจจะกลับมาป่วยอีก" นางปวีณากล่าว
รม ว.พม.กล่าวอีกว่าการดูแลครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ อยากขอบคุณตำรวจที่พา ตัวมาส่งให้ ไม่อย่างนั้นคงต้องเร่ร่อนไปอีก ในส่วนของครอบครัวถ้าหากยังไม่พร้อม ทางพม.ก็จะดูแลในเบื้องต้นก่อน หากครอบครัวพร้อมเมื่อไรก็จะส่งตัวให้ไปดูแลต่อ หากไม่พร้อมจะดูแลอีกทาง พม.ก็จะได้ไปพูดคุยว่าเพราะเหตุใด และหาทางออกร่วมกันต่อไป
ด้าน นพ.สินเงิน สุขสมปอง ผอ.ร.พ. สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า ผู้ป่วยเมื่อเข้ามารักษาแล้วทางโรงพยาบาลก็จะดูให้ดีที่สุด พร้อมประสานงานญาติมาดูแลด้วย ซึ่งวันนี้ดีใจที่ท่านรัฐมนตรีเข้ามาช่วยเหลือดูแลอีกทาง ในส่วนที่ว่าจะสามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวเมื่อไรนั้นต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง
พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่าจะประสานกับทางโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นก่อนที่แจ้งกับหน่วยที่เกี่ยวข้องรีบนำตัว"ยุ้ย รจนา" เข้ารับการบำบัดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณยุ้ย เคยเข้ารับการบำบัดยาเสพติดมาแล้ว แต่เมื่อออกมาคงประสบกับปัญหาชีวิต จึงได้กลับไปเสพยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันดูแลและช่วยเป็นกำลังใจให้ต่อไป
สำหรับ ปัญหาในปัจจุบันของผู้ที่ผ่านการบำบัด ซึ่งส่วนหนึ่งจะกลับไปใช้ยาอีกนั้น เนื่องจากยังคงประสบปัญหาในชีวิต จึงตัดสินใจเข้าไปสู่วังวนเก่า ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ส. ต้องปรับมาตรการในการดูแลผู้ผ่านการบำบัดให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยในรอบปีที่ผ่านมามีผู้ผ่านการบำบัดมากถึง 7 แสนคน สำนักงาน ป.ป.ส. จะประสานกับทุกกระทวง ทบวง กรม เพื่อติดตามเฝ้าระวังไม่ให้ผู้ผ่านการบำบัดกลับไปใช้ยาเสพติดอีก ถึงแม้จะเป็นงานที่หนักและใช้กำลังเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมาก แต่ป.ป.ส.ก็ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมในการปฏิบัติ เพื่อติดตามผู้ผ่านการบำบัดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นต่อไป
ด้าน นางแบบรุ่นพี่ "อุ๋ม"อาภาศิริ นิติพน กล่าวว่า ได้คุยกับกลุ่มเพื่อนๆ หรือคนเบื้องหลังในวงการแฟชั่น เขาก็เห็นใจและรู้สึกสงสารน้องยุ้ย เพราะเขาเองก็เคยเป็นหนึ่งในนางแบบชั้นนำของไทยที่โกอินเตอร์ระดับโลกก็ว่า ได้ ในฐานะรุ่นพี่เห็นน้องประสบความสำเร็จ ได้เป็นนางแบบให้กับแบรนด์น้ำหอมระดับโลก อย่างชาแนล ปารีส ต้องยอมรับเลยว่าเขาเหนือกว่าใคร และฮอตมากๆ ในตอนนั้น ยังแอบตื่นเต้นแทนเขาเลยว่ามีโอกาสไปสร้างชื่อเสียงให้กับคนไทยในวงการนาง แบบตอนนั้นด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มนางแบบในวงการจะมีการ ช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นางแบบรุ่นพี่กล่าวว่า ถ้าจะให้อยู่ๆ ยื่นมือเข้าไปช่วยเลยตอนนี้ก็จะยังไงอยู่ เพราะไม่มีใครที่จะเป็นแกนนำ แต่ถ้ามีใครที่จะเข้าไปช่วยเหลือเขาสามารถบอกได้เลย ยินดีช่วยเขาจริงๆ อยากให้เขากลับมาตั้งต้นใหม่อีกครั้ง
"อยากฝากถึงนางแบบทุก คนว่า จริงๆ วงการนี้มันมาไวไปไว อยู่ได้แค่ช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ฉะนั้นเราต้องรู้จักใช้เงินอย่างประหยัด รู้จักเก็บรู้จักใช้ เงินมันสามารถหาได้ง่ายกว่าอาชีพอื่น อยากให้ทุกคนอย่าหลงระเริง อยากให้มีชีวิตที่พอเพียง เพราะอาชีพของเราเป็นอาชีพที่ทุกคนอยากจะก้าวเข้ามาและอยากไปในที่สูงสุด อันนี้เราไม่ได้จะสอนใคร แต่เราพูดในฐานะที่เราทำงานตรงนี้ว่าทุกอย่างมันมาไวไปไว เราต้องตั้งรับกับมันให้ได้ ล้มแล้วลุกได้ ขอให้มีกำลังใจในการลุกมาต่อสู้ก็พอ เราเชื่อว่าคนไทยใจดีอยู่แล้ว" "อุ๋ม"อาภาศิริกล่าว
ส่วนนางแบบรุ่นใกล้เคียงกับยุ้ย คือ "โย"ยศวดี หัสดีวิจิตร ที่ก้าวเข้ามาทันในรุ่นของ "ยุ้ย"รจนา เพชรกัณหา เผยว่าพอทราบข่าวนี้ก็ตกใจ เพราะเคยพูดคุยกับเขาเมื่อ 2 ปีก่อน ช่วงนั้นทราบว่ามีปัญหาชีวิตจึงพูดคุยและเป็นกำลังใจให้ แต่ตอนนี้ก็ต้องรอดูสถานการณ์อีกทีว่า เขามีเรื่องยาเสพติดอย่างที่ว่าจริงหรือเปล่า จริงๆ ก็สนิทกับเขาคนเดียวในรุ่นนั้น เพราะเข้ามาเป็นนางแบบทันยุคพี่ยุ้ยอยู่ เขาเป็นคนที่มีเพื่อนในวงการน้อย เพราะไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ
"จำ ได้เลยว่าตอนนั้นเขาดังมากๆ เพราะถ่ายแบบให้ชาแนล ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นแบรนด์ระดับโลก เราก็ตื่นเต้นนะ เพราะเขาเป็นคนไทยคนแรกที่ก้าวไปถึงจุดนั้น เป็นเหมือนรุ่นพี่ในวงการที่เราชื่นชมเรื่องความสำเร็จ แต่หลังจากที่เขากลับมาเราก็เริ่มเห็นว่าเปลี่ยนแปลง เช่น เรื่องการวางตัว, การใช้ของแบรนด์เนมจัด จำได้เลยว่าตอนที่เขากลับมาใหม่ๆ เขาใช้กระเป๋าโค้ช รุ่นล่าสุดราคาหลายหมื่น เราเห็นยังอิจฉาเลยว่าเขารวยฟู่ฟ่า เพราะในยุคนั้นไม่ค่อยมีใครใช้เนื่องจากมันแพงมาก และเขากลับทำเหมือนไม่รู้จักใครในนางแบบ ซึ่งเราก็ยังตกใจเลยว่าอะไรทำให้เปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น" "โย"ยศวดี กล่าว
ผู้ สื่อข่าวถามถึงตอนที่เราได้พูดคุยกันล่าสุดยุ้ยมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง โยกล่าวว่า พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ตกใจนะที่เขาเป็นแบบนี้ ตอนนั้นเขากลับมาใช้ชีวิตเหมือนกับนางแบบทั่วไป คือมาเปิดโรงเรียนสอนเดินแบบอยู่สักพัก และหลังจากนั้นก็มีข่าวเรื่องยาเสพติดเข้ามาประมาณ 2 รอบ เรามีโอกาสเจอตามงานเดินแบบทั่วไป เราก็เข้าไปพูดคุยว่าชีวิตเป็นยังไง เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาลำบาก มีปัญหาต่างๆ เข้ามา รวมถึงเหมือนจะมีเรื่องยาด้วย ฟังยังรู้สึกสงสารเลย เพราะแต่ก่อนเขารวยมาก มีเงิน 10-20 ล้านบาท เขาเล่าให้ฟังว่ามีลูกกับผู้จัดการ แต่ ตอนนี้เลิกกันแล้วและปิดข่าว ก็ฟังไว้เป็น อุทาหรณ์การใช้ชีวิต เหตุการณ์ของพี่ยุ้ยทำให้รู้ว่าคนเราขึ้นสูงสุดก็ลงมาต่ำสุดได้ ฉะนั้นอย่าใช้ชีวิตบนความประมาท