ผ้าม่านนอกจากจะใช้ประโยชน์ในการกันแดดกันแสงแล้ว ยังเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์อย่างหนึ่งที่ใช้ตกแต่งบ้านด้วย ถ้าผ้าม่านลายโปรดเต็มไปด้วยฝุ่น ละออง หยากไย่ นอกจากจะไม่สวยงามสดชื่นแล้ว ยังจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพโรคภูมิแพ้ต่างๆ ดังนั้น เราจึงควรดูแลรักษาผ้าม่านตามขั้นตอนและระยะเวลา
ใครที่คิดว่าการซักผ้าม่านเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องลงทุนจ้างร้านหรือบริการซักผ้าม่านอย่างเดียว ความจริงแล้วไม่ยากเลยค่ะ สามารถทำด้วยตนเองได้ เพียงแต่ม้าผ่านแต่ละแบบก็จะมีวิธีการถอดและซักที่แตกต่างกันออกไป เรามาทำความรู้จักกับผ้าม่านและเตรียมพร้อมทำความสะอาดกันดีกว่า
1. ปลดผ้าม่านออกจากราวม่าน หากไม่ทราบวิธีการถอดควรปรึกษาช่างติดตั้งผ้าม่านก่อน
2. หลังจากปลดผ้าม่านออกแล้ว ถอดตะขอ โซ่ถ่วง และอุปกรณ์ที่ติดมากับตัวผ้าม่านออก เพราะโซ่อาจขึ้นสนิมและทำให้ผ้าเสียหายได้
3. นำผ้าม่านไปซักด้วยน้ำเปล่า 2 รอบ เพื่อให้ฝุ่นที่เกาะหลวมๆ ตามผิวผ้าได้หลุดออกก่อน
4. หลังซักน้ำเปล่า หากผ้ายังสกปรกควรแช่ผ้าม่านทิ้งไว้อีกประมาณ 30 นาที ใส่ผงซักฟอกทั่วไป เมื่อครบเวลาแล้วค่อยล้างผงซักฟอกออก
5. นำผ้าม่านเข้าเครื่องซักผ้า เลือกโปรแกรมซักผ้าหนา ไม่ควรซักด้วยน้ำร้อนสำหรับผ้าม่านบางชนิด ถ้าผ้าชิ้นใหญ่ให้ใส่ผ้าขนหนู 2-3 ผืน ลงไปด้วย เพื่อปรับสมดุลของเครื่องซักผ้าและรักษาผ้าม่านไม่ให้เกิดความเสียหาย
6. ใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในเครื่องซักผ้า ขณะที่เครื่องซักผ้าทำงานให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไป (ขึ้นอยู่กับความสกปรกของผ้าม่าน) ในกรณีที่ผ้าม่านมีคราบเชื้อรา หรือรอยคราบน้ำ ให้ใส่เกลือลงไปเพื่อช่วยขจัดคราบ หากมีคราบฝั่งแน่นสะสมอาจต้องงใช้น้ำยาขจัดคราบช่วยอีกทางหนึ่ง
7. หลังซักเสร็จ ให้น้ำผ้าม่านออกจากเครื่องทันที นำผ้าม่านใส่ตะขอ แขวนที่รางม่าน จัดจีบให้เข้าที่ อย่าปล่อยทิ้งไว้จะช่วยให้ม่านคงรูปทรง เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ไม่นานผ้าม่านก็จะแห้ง
หลังผ้าแห้ง ถ้ามีรอยยับสามารถใช้เตารีดแบบไอน้ำรีดเพื่อความเรียบร้อยอีกครั้งได้ เพียงเท่านี้ผ้าม่านที่บ้านคุณก็จะสะอาดสวยเหมือนใหม่แล้วล่ะจ้า