เกิดเหตุสลดในทะเลพัทยาอีกจนได้
เมื่อ เรือสปีดโบ๊ตพานักท่องเที่ยวแดนมังกรพุ่งชนเชือกสมอเรือใกล้ชายหาดพัทยา ก่อนเสียหลักกระแทกเรือใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยว 29 ชีวิตที่นั่งมาในเรือกระเด็นตกน้ำไปคนละทิศละทาง หนึ่งในจำนวนนั้นมี 2 คนชะตาขาด ร่วงลงไปใกล้ใบพัดเรือถูกฟันเละตายอนาถ บาดเจ็บอีก 8 รายรวมทั้งคนขับ
สยองเกินบรรยาย
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็น เรื่องใหญ่นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวฯ สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทันที พร้อมรุดเยี่ยม คนเจ็บ เร่งปรับแผนรองรับหวั่นเกิดเหตุ ซ้ำสองขึ้นอีก
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเกิดเหตุเรือชน นักท่องเที่ยวเกาหลีขาขาดมาแล้ว!??
เบื้อง ต้นนายสมศักย์ผุดไอเดียตั้งศูนย์ควบคุมเรือเหมือนศูนย์วิทยุการบิน บังคับ ให้วิ่งตามร่องน้ำของใครของมัน เตรียมประสานกระทรวงคมนาคมออกมาตรการเข้มปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดซ้ำ
ซึ่งล้วนเป็นภาพลบกับเมืองไทยทั้งนั้น
ย้อน ไปดูเหตุเรือสปีดโบ๊ตชนเรือใหญ่ เกิดตอนบ่ายวันที่ 28 ส.ค. ตำรวจสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุ เรือชนบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ร.ต.ท.สมบัติ แก้วมูลมุข ร้อยเวรฯ จึงรายงาน พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก. พร้อมประสาน นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง, นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า แพทย์ร.พ.พัทยาเมโมเรียล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ
ห่าง ฝั่งประมาณ 200 เมตร พบเรือสปีดโบ๊ตขนาด 2 เครื่องยนต์ ชื่อ "โชคสุวรรณี 17" สีขาว-น้ำเงิน ในสภาพมีร่องรอยการชนจนกราบเรือด้านขวาพังเสียหายทั้งแถบและกำลังจะจมลงสู่ ก้นทะเล มีนักท่องเที่ยว ชาวจีนกระเด็นตกน้ำกระจัดกระจายลอยคออยู่ในทะเล
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งร.พ.อย่างทุลักทุเล
กู้ ภัยงมร่างผู้เสียชีวิต 2 รายที่จมอยู่ในทะเลคือ นายต่ง เฟยหยู อายุ 30 ปี สภาพศพถูกใบพัดเรือเฉือนเข้าที่ชายโครงซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ และนายชางเถา อายุ 29 ปี สัญชาติจีน มีบาดแผลถูกใบพัดเรือตัดบริเวณลำคอและตามร่างกายหลายแห่งเช่นกัน
ส่วน ผู้บาดเจ็บ 8 ราย คือ น.ส.เจง เยียนซี อายุ 33 ปี, น.ส.เฉียว เมียนยิง อายุ 47 ปี, นายเฉี่ยว ฉางปิง อายุ 62 ปี, นายคิน เฉียวหลิน อายุ 32 ปี, นายเสี่ยว ชางจิน อายุ 49 ปี, นายเหลียง ไฉ่เหยา อายุ 49 ปี, นายกู่ หยูเฉิง อายุ 33 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจีน
ขณะที่ นายเกรียงไกร บุญศรี อายุ 23 ปี ชาวอ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ คนขับเรือก็บาดเจ็บด้วย
ทั้งหมดถูกลำเลียงส่งร.พ.พัทยาเมโมเรียล
ตํารวจ สอบปากคำนายกวงไฉ่ ไกด์นำเที่ยวของบริษัท หล่งไท้ ทราเวล จำกัด ย้อนเหตุระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุพานักท่องเที่ยวชาย-หญิงชาวจีนรวม 29 คน ไปท่องเที่ยวที่เกาะล้าน ขากลับนั่ง เรือสปีดโบ๊ตลำเกิดเหตุ กระทั่งใกล้จะถึงฝั่งเรือเกิดไปชนกับเชือกสมอเรือเล็กที่ใช้รับ-ส่งนักท่อง เที่ยวขึ้นเรือใหญ่ซึ่งมีความยาวประมาณ 38 ฟุต ที่จอดลอยลำอยู่เฉยๆ จนไปพันกับเชือกสมอ ทำให้เรือกระแทกกับเรือใหญ่เสียงดังโครมใหญ่จนกราบเรือด้านขวาแตกกระจาย นักท่องเที่ยวกระเด็นตกน้ำไปคนละทิศละทาง
เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
หลัง เกิดเหตุนายรณกิจรีบรายงานไปยังนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และนายคมสัน เอกชัย ผวจ.ชลบุรี รับทราบข้อมูลทันที นายคมสันจึงรีบสั่งการให้สอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมกำชับให้ดูแลนักท่องเที่ยวที่รอดชีวิตอย่างเต็มที่
เบื้องต้นฟันธงสาเหตุเกิดจากความประมาทของคนขับสปีดโบ๊ต!??
งาน นี้นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม พร้อมด้วยนายคมสันเดินทางเข้าเยี่ยมอาการคนเจ็บที่ร.พ.พัทยาเมโมเรียล พร้อมกับ เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือ และ ฟังสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงาน รมว.การท่องเที่ยวฯ และนายกรัฐมนตรีทราบ ต่อไป
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้นายสมศักย์ต้องออกมากล่าวแสดงความเสียใจ ก่อนรุดเยี่ยมคนเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น
"ปัญหา เกิดซ้ำซากอย่างนี้เราคงย้อนกลับไปดูการประชุมเวิร์กช็อปที่กระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม จังหวัดชลบุรี และพัทยา ว่าแผนงานที่รายงานนั้นเราปฏิบัติกันได้แค่ไหน ถ้าบอกว่าเรามีมาตรฐานจัดการที่ดีแล้วยังมีปัญหาได้อีกอย่างไร คงต้องถามไปที่กรมเจ้าท่า และกระทรวงคมนาคมด้วย ซึ่งผมยังย้ำเรื่องที่เสนอไปแล้วในกรณีการตั้งศูนย์ควบคุมเรือ และการจัดโซนนิ่งเพื่อการรักษาความปลอดภัยมันมีความจำเป็นจริง" นายสมศักย์กล่าว
รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวอีกว่า เราควรมีศูนย์ควบคุมเรือ เหมือนที่เครื่องบินเขามีศูนย์วิทยุการบิน เป็นการบังคับให้วิ่งตามร่องน้ำของใครของมัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงเช่นนี้อีก ต่อไป นอกจากนี้ ยังดีเดย์เปิดศาล แผนกคดีท่องเที่ยวในวันที่ 5 ก.ย.อีกด้วย
เพื่อให้ความเป็นธรรมและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยว เมืองไทย