ข้อเท็จจริงก็คือว่า ในเมื่อยังไม่มีครีมในโลกที่สามารถลงลึกไปบำรุงได้ถึงชั้นหนังแท้ ครีมบำรุงใต้ดวงตาก็เช่นเดียวกัน ที่เป็นสูตรการตลาดล้วนๆ ในการอ้างถึงการลดความหมองคล้ำ หรือริ้วรอยที่ไม่อาจเป็นจริงได้ นอกเสียจากว่า เป็นครีมที่มีความอ่อนโยนมาก เพราะผิวบริเวณนี้เป็นจุดที่บอบบางที่สุดบนใบหน้า และเป็นครีมที่ให้ความชุ่มชื่นมากเป็นพิเศษ ในเมื่อผิวใต้ดวงตา มีไขมันน้อยเป็นพิเศษ (เป็นเหตุให้เกิดริ้วรอยง่ายนั่นเอง)

รอบดวงตามีริ้วรอย
ไม่น่าดูใช่ไหมล่ะ ที่รอบดวงตามีแต่ริ้วรอย แถมยังมาก่อนเวลาของมันอีกต่างหาก เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้หากเป็นคนผิวแห้งมาก ชอบขยิบตา เครียด หรือต่อมไขมันใต้ดวงตาทำงานผิดปกติ การใช้ครีมบำรุงใต้ดวงตานั้นทำได้ และควรเลือกชนิดที่อ่อนโยน เพราะอย่าลืมว่าผิวโซนนี้มีความบอบบางสูง และแพ้ง่ายกว่าผิวส่วนอื่นๆ ครีมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเป็นส่วนผสมหลักจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด (ไม่เป็นไรเลยหากจะลองกับผิวตรงข้อพับก่อนซื้อ) เพราะช่วยความเสี่ยงต่อการแพ้ และเลือกชนิดที่ให้ความชุ่มชื่นสูงไว้ก่อน และเลือกสารสกัดที่ดีต่อการสร้างนุ่มนวลผิวอย่างวิตามินอี เชียร์บัตเตอร์ หรือน้ำผึ้ง เป็นต้น

รอบดวงตาดำคล้ำ
หากเป็นชนิดถาวรที่มีสาเหตุมากจากโรคภูมิแพ้ หรือโรคประจำตัว เป็นที่แน่นอนว่าครีมรอบดวงตาที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่อาจช่วยคุณได้ นอกเสียจากการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง แล้วผิวรอบดวงตาก็ดีขึ้นได้เอง แต่หากเป็นเพราะพักผ่อนน้อย การบำรุงรอบดวงตาทำได้เฉพาะเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื่น สดใส เพราะผิวจะดึงน้ำไปชดเชยในส่วนที่ร่างกายสูญเสียไป ทางที่ดีควรฟื้นฟูด้วยการนอนให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง และทาครีมบำรุงที่อ่อนโยนใต้ดวงตาเป็นผู้ช่วยอีกแรง โดยเฉพาะครีมที่ผสมสารสกัดธรรมชาติอย่างแตงกวา ว่านหางจระเข้ ชาเขียว ใบบัวบก เป็นต้น

ทิปส์แบบนี้ รู้กันหรือยัง?
- ทุกครั้งที่สครับผิวหน้า สาเหตุที่สครับทุกชนิดแนะให้เลี่ยงบริเวณรอบดวงตา ไม่เพียงเพราะเลี่ยงการเข้าตา แต่ผิวมีความบางมาก จึงไม่ควรเสี่ยงต่อการระคายเคืองใดๆ
- ผิวหน้าคนเราหย่อนยานลงตามแรงโน้มถ่วง เช่นเดียวกับการทาครีมรอบดวงตา ที่ควรใช้นิ้วที่น้ำหนักมือน้อยที่สุด นั่นคือนิ้วนางลูบไล้ครีมจากหางตามายังหัวตาอย่างเบามือ
- หากผิวรอบดวงตาเป็นปกติ แต่ต้องการการบำรุงและใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่อ่อนโยนอยู่แล้ว ก็สามารถใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีแทนอายส์ครีมได้ และไม่จำเป็นต้องทาครีมบนเปลือกตาก็ได้
- ครีมบำรุงรอบดวงตาที่แยกขายชนิดกลางวันและกลางคืนนั้น แท้จริงแล้ว แตกต่างกันเพียงสารเคมีบางชนิดที่เติมลงไป เช่น ครีมกลางวันอาจเติมสารกันแดด มีสารลดการบวมน้ำ (หลังตื่น) และมีเบสเป็นน้ำ ส่วนครีมกลางคืนอาจเติมออยล์มากขึ้นเพื่อให้ผิวดูชุ่มชื่น เป็นต้น