คุณคงไม่เชื่อ? "โอเปิล อดัม แอลพีจี" เต็มถังวิ่งได้ 1,200 กม.

แม้ว่าทางรัฐบาลกำลังจัดระเบียบโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจีให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่ให้คนใช้น้ำมันต้องไปอุดหนุนคนใช้ก๊าซในราคาถูกเหมือนทุกวันนี้ ราคาก๊าซจึงจะทยอยปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อ กก. แต่เชื่อว่ารถยนต์ใช้แอลพีจีก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ต่อไป เพราะราคายังต่างจากน้ำมันมากอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือ ขึ้นราคาก็ยังคุ้มกับการใช้ก๊าซ 

สำหรับในบ้านเรารถใช้ก๊าซเพิ่งได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งกระฉูด ในขณะที่ต่างประเทศโดยเฉพาะในยุโรปใช้แพร่หลายมานานแล้ว 

ประเด็นสำคัญในการเลือกใช้รถติดก๊าซก็คือ ความประหยัด ไม่ใช่เฉพาะราคาต่อ กก. แต่ความจุของถังก๊าซในรถสามารถทำให้รถวิ่งได้ไกลเท่าไหร่ก็เป็นประเด็นสำคัญที่ลูกค้าเลือกใช้



ล่าสุด ค่ายโอเปิล (Opel) อาจจะห่างหายจากตลาดรถยนต์ในบ้านเราไปหลายปี แต่ในยุโรปยังคงมีรถรุ่นใหม่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุด เปิดตัวรุ่น โอเปิล อดัม (Opel Adam) ใหม่ โดยนำเครื่องยนต์ 1.4 อีโคเฟล็กซ์ (Ecoflex) กำลังสูงสุด 86 แรงม้า มาติดตั้งเข้ากับระบบก๊าซแอลพีจี เน้นความประหยัด เมื่อเครื่องยนต์ใช้แอลพีจี จะประหยัด 6.9 ลิตร/100 กม. (14.4 กม./ลิตร) และเมื่อสลับไปใช้น้ำมันเบนซิน จะประหยัดสูงสุด 5.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (19.6 กิโลเมตร/ลิตร)

การติดตั้งระบบก๊าซใน โอเปิล อดัม แม้ตัวรถจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็ถูกปรับให้มีการตอบสนองได้ โดยชุดถังก๊าซ 35 ลิตร ถูกจัดวางไว้ใต้พื้นของรถ ทำให้ไม่มีผลต่อห้องสัมภาระ ส่วนเครื่องยนต์เองก็ปรับชุดวาล์วใหม่ให้ทนทานต่อการจุดระเบิดของก๊าซ รวมถึงปรับการสั่งจ่ายของระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมต่อการทำงานด้วยชุดก๊าซ

แม้จะดูไม่ต่างจากรถติดก๊าซทั่วไป แต่ระบบของ โอเปิล อดัม เพียงเติมก๊าซเต็มถัง ก็สามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตร และเมื่อรวมกับระยะทางของน้ำมันอีก 700 กม. ทำให้สามารถขับได้ไกลถึง 1,200 กม.

ทีมงานโอเปิลบอกว่า ด้วยการติดตั้งชุดก๊าซใน โอเปิล อดัม แอลพีจี ระบบเชื้อเพลิงก๊าซนี้จะให้ความประหยัดต่อผู้ขับขี่มากกว่าร้อยละ 50 ด้วยราคาค่าเชื้อเพลิงที่ถูกกว่า แม้จะสิ้นเปลืองมากกว่าน้ำมันร้อยละ 35 พร้อมกันนี้ยังพร้อมจะนำระบบในแบบเดียวกันติดตั้งในรถรุ่นอื่นๆ ของ โอเปิล ในอนาคต

โอเปิล อดัม แอลพีจี ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ โดยตั้งราคาจำหน่ายที่ 21,565 ดอลลาร์ ในเยอรมนี ส่วนในประเทศไทยคงต้องร้องเพลงรอไปก่อน แต่เชื่อว่าเมื่อเทคโนโลยีรุ่นใหม่ทำได้ขนาดนี้ ประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก คงจะมีค่ายรถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาเป็นทางเลือกให้คนไทยได้ใช้อย่างแน่นอน

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...