เมื่อเย็นวันที่ 26 ส.ค. นายสุกิจ พูนศรีเกษม อดีตผู้ประสานงานเข้ามอบตัวของอดีตเณรคำ ยอมรับว่าขณะนี้อดีตเณรคำได้เดินทางออกจากลาวไปอยู่ที่ประเทศพม่า ใกล้ด่านอ.แม่สอด จ.ตากแล้ว ส่วนรายละเอียดเรื่องการย้ายถิ่นที่อยู่ตนไม่ทราบเพราะขณะนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานใด ๆให้อดีตเณรคำแล้ว
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอไม่ให้ความสำคัญและไม่สนใจการออกมาให้ข้อมูลใด ๆ ของนายสุกิจแต่จะเดินหน้าสรุปสำนวนสั่งฟ้องเพื่อเข้าสู่กระบวนการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เมื่ออัยการสั่งฟ้องคดีแล้วก็จะเข้าเงื่อนไขในการขอส่งตัว ซึ่งไม่ว่าจะหลบหนีอยู่ในประเทศใดก็ขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้
ขณะที่พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักษ์ศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ล่าสุดยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าอดีตเณรคำเดินทางออกจากลาวไปพม่า
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์พนักงานสอบสวนเชื่อว่ากลุ่มลูกศิษย์และทีมทนายออกมาให้ข้อมูลเท็จเพื่อป่วนการสอบสวนสวน ดังนั้นจึงไม่อยากเปิดเผยหรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับถิ่นที่อยู่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันจากสหรัฐอเมริกาว่าอดีตเณรคำออกจากสหรัฐฯแล้วหรือไม่ เพราะตามปกติเมื่อบุคคลเดินทางเข้าหรือออกจากประเทศหนึ่งประเทศใด ต้องมีข้อมูลยืนยันจากหน่วยงานราชการ
ระหว่างนี้จะต้องรอจนถึงวันที่ 30 ส.ค. ซึ่งดีเอสไอจะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง หากอัยการเห็นพ้องกับพนักงานสอบสวนคือให้สั่งฟ้องอดีตเณรคำเป็นจำเลยในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี จากนั้นดีเอสไอจะนำคำสั่งคดีไปขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนทันที ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวมีความจำเป็นต้องรู้ถิ่นที่อยู่ที่แน่ชัด หน่วยงานต่างประเทศสามารถให้ข้อมูลได้อย่างเป็นทางการเพราะเป็นการประสานข้อมูลในกระบวนการตามกฎหมาย.