จากรณีกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) พร้อมมวลชน 50 ราย เข้าแจ้งความ ร.ต.ท.เลิศชาย สำนัก ร้อยเวร สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีกับกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ชุมนุมบริเวณสวนลุมพินี ร่วมกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ในข้อหาทำร้ายร่างกายและสูญเสียทรัพย์สิน หลังถูกกลุ่มนักเรียนดังกล่าวบุกทำร้ายขณะเดินทางโดยสารด้วยรถยนต์ผ่านถนนพระราม 4 พร้อมโชว์ให้เห็นถึงสภาพความเสียหายของรถยนต์ รวมทั้งบาดแผลตามร่างกายเป็นหลักฐานนั้น
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่กลุ่ม กวป.เดินทางกลับจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินทางกันมาด้วยรถแท็กซี่ และรถกระบะ พร้อมกับใส่เสื้อแสดงสัญลักษณ์เสื้อแดง ใช้เส้นทางขาออกผ่านถนนพระราม 4 มุ่งหน้าคลองเตย ผ่านบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว ซึ่งผู้ชุมนุม กปท.อยู่บริเวณลุมพินีทางฝั่งประตู 4 เห็น จึงเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทางฝั่งกลุ่มกปท.ได้ขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำใส่กลุ่มกวป. ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย กระจกแตก ผู้ชุมนุมกลุ่มกวป.ได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นกลุ่มผู้เสียหายได้ไปแจ้งความที่ สน.ลุมพินี ระหว่างนั้นฝั่งนักเรียนอาชีวะ 4 คน ที่มาร่วมชุมนุมที่สวนลุมพินี ได้เข้าแจ้งความรถจยย.หายด้วย แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งเกิดขึ้น ส่วนที่เกิดเหตุบริเวณถนนพระราม 4 เป็นท้องที่รับผิดชอบของสน.ทุ่งมหาเมฆ ตำรวจสน.ลุมพินี จึงนำกลุ่มกวป.ไปส่งที่สน.ทุ่งมหาเมฆ คาดว่าน่าจะมีคนปล่อยข่าวไปถึงผู้ชุมนุม กปท. ที่เป็นนักเรียนอาชีวะ ทำให้เข้าใจผิดว่ากลุ่มเสื้อแดงไปปิดล้อมกลุ่มอาชีวะที่สน.ลุมพินี เลยพากันเดินทางมาเพื่อปิดล้อมโรงพัก ตำรวจสน.ลุมพินีจึงให้นักเรียนอาชีวะที่มาแจ้งความไปบอกกลุ่มที่มาชุมนุมว่าไม่ได้มีการปิดล้อมเพื่อจะรุมทำร้าย จากนั้นเด็กนักเรียนอาชีวะจึงเดินทางแยกย้ายกันกลับ ทั้งนี้ การดำเนินคดีเรื่องดังกล่าวให้ สน.ทุ่งมหาเมฆ เป็นผู้รับผิดชอบต่อไป
ด้านนายประดิษฐ์ ระสิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ให้สัมภาษณ์ว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ไม่มีคำสั่งห้ามไม่ให้นักเรียน นักศึกษา ในสถาบันสังกัด สอศ.เข้าร่วมชุมนุนเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เนื่องจากกรณีดังกล่าว หากเป็นการชุมนุนโดยสงบปราศจากอาวุธ ก็เป็นสิ่งที่กระทำได้ตามสิทธิเสรีภาพในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามนักเรียน นักศึกษาเหล่านั้น จะต้องเข้าร่วมชุมนุมในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามสถาบัน
รองเลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสอศ.ติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด พร้อมกำชับผู้อำนวยการของแต่ละวิทยาลัย ใช้ดุลยพินิจรในกาสื่อสารสร้างความเข้าใจกับนักเรียน นักศึกษาในกำกับดูแลความเหมาะสม เพราะการจะไปทำกิจกรรมใด ไม่ควรใช้ชั่วโมงเรียนไปเข้าร่วมกิจกรรม เพราะส่งผลให้เสียการเรียน แต่หากไปเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงวันหยุด ให้ถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่ควรไปปิดกั้น