ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 25 สิงหาคม ร.ต.ท.ปรเมศ งามเลิศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถยนต์ เหตุเกิดที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟ ซอยนันทกาญจน์ หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
พบรถไฟสายหัวลำโพง-น้ำตกไทรโยค ขบวนที่ 1217 รวม 3 โบกี้ ภายในมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พยาบาล OPD จากโรงพยาบาลราชวิถี รวมกว่า 150 คน สภาพหัวจักรรถไฟกันชนหัก สายลมบังคับอุปกรณ์เสียหาย มีนายดุสิต สัมมาทิฏฐิ เป็นพนักงานขับรถไฟ ข้างรางรถไฟพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีแดง หมายเลขทะเบียน ภค 5878 กทม. จอดขนานกับรางรถไฟ สภาพด้านหน้าซ้ายถูกรถไฟขบวนดังกล่าวชนจนพังเสียหาย ทราบชื่อคนขับคือ นางคณิภา เลิศหงิมภูกนก อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1616/71 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีนางสมพงษ์ วิเศษสิงห์ มารดาและ ด.ช.พงษ์ศุภณัฐ หรือน้องแซน เลิศหงิมภูกนก อายุ 2 ขวบ บุตรชายนั่งอยู่ที่เบาะซ้าย ทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่อยู่ในอาการที่ตื่นตระหนก ช็อกกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
นายดุสิต กล่าวว่า ตนขับรถไฟออกมาจากสถานีหัวลำโพง มุ่งหน้าไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุอยู่ๆ รถยนต์เก๋งกำลังจะขับจะข้ามทางรถไฟ จึงเป็นเหตุให้รถไฟชนเข้าอย่างจังจนรถยนต์เก๋งกระเด็นตกลงไปข้างทางได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ด้าน นางคณิภา ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ กล่าวว่า ตนใช้เส้นทางนี้เป็นประจำทุกวัน ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถยนต์ไปส่งแม่ที่บ้าน โดยมีน้องแซนลูกชายนั่งมาด้วย เมื่อมาถึงทางแยกตัดทางรถไฟ ก็ได้ชะลอรถเพื่อมองซ้ายมองขวาว่า มีรถไฟวิ่งผ่านมาหรือไม่และไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ อีกทั้งยังมีพุ่มไม้บดบังทัศนวิสัย จึงมองไม่เห็นรถไฟ จึงถูกชนเข้าอย่างจัง อย่างไรก็ตาม ตนขอให้การรถไฟช่วยกรุณาติดตั้งอุปกรณ์กั้นทางรถไฟในหลายๆ จุดด้วย เพราะที่ผ่านมามีชาวบ้านถูกรถไฟชนมาแล้วหลายราย นอกจากนี้ ขอให้การรถไฟช่วยตัดพุ่มไม้ ต้นหญ้า รวมทั้งต้นไม้ทุกชนิด ที่ขึ้นตามสองข้างทางรถไฟในจุดตัดออกให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้บดบังสายตาของผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อความปลอดภัย