แกะรอยเอปในตำนาน โบโนโบ (Pan paniscus)
โบโนโบ หรือ ชิมแปนซีแคระ
การค้นพบ โบโนโบได้รับการอนุกรมวิธานโดย เฮิร์นส์ ชวาตส์ นักสัตววิทยาชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1929 หลังจากก่อนหน้านั้น คือ ในปี ค.ศ. 1927อองรี โซเดน นักสัตววิทยาชาวเบลเยี่ยมได้ตรวจสอบหัวกะโหลกและหนังสัตว์แปลกประหลาดชนิดหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นชิมแปนซีตัวเมีย ซึ่งน่าจะเป็นตัวโตเต็มวัยที่ได้มาจากเบลเยี่ยมคองโก ซึ่งชวาตส์ได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์ของโซเดน และได้ทำการวัดขนาดกะโหลกและตัวอย่างอีก 2 หัว ก่อนสรุปว่าเป็นชิมแปนซี หรือเอปชนิดใหม่ของโลก ซึ่งจะพบได้เฉพาะฝั่งซ้านหรือตอนใต้ของแม่น้ำคองโกเท่านั้น
ลักษณะและพฤติกรรม ป็นลิงไม่มีหางที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่ามีวิวัฒนาการใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด โดยมีบรรพบุรุษร่วมกันก่อนจะมาแยกสายวิวัฒนาการ โดยมีดีเอ็นเอเหมือนกับมนุษย์ถึงร้อยละ 90 โบโนโบมีลักษณะทั่วไปเหมือนกับชิมแปนซี ที่อยู่ในสกุลเดียวกัน แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก และมีถิ่นที่อยู่อาศัยจำกัดกว่า และมีพฤติกรรมรักสงบ ไม่ก้าวร้าวหรือล่าลิงชนิดอื่นกินเป็นอาหารเหมือนชิมแปนซี[4]
โบโนโบ มีส่วนหัวที่เล็กกว่าชิมแปนซีเมื่อเทียบกับขนาดตัว มีรูปร่างที่เพรียวและแขนยาวกว่า อย่างไรก็ตามทั้งตัวผู้และตัวเมียเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดพอ ๆ กับชิมแปนซีตัวเมีย ซึ่งโบโนโบได้แยกสายวิวัฒนาการมาจากชิมแปนซีเมื่อกว่า 900,000 ปี ถึง 1.5 ล้านปีก่อน [3] ได้มีการศึกษาพบว่า โบโนโบเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวที่ไม่ใช่มนุษย์ ที่สามารถแสดงออกทางความรักและมีพฤติกรรมทางเพศได้เหมือนมนุษย์ เช่น การจูบ, การออรัลเซ็กส์ หรือแม้แต่การผสมพันธุ์แบบหันหน้าเข้าหากัน[5] และยังพบว่ามีพฤติกรรมผสมพันธุ์เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนอาหารกัน แทนที่จะต่อสู้แย่งชิงกันแบบสัตว์ชนิดอื่น[6] หรือแม้แต่การใช้อวัยวะเพศที่ขยายใหญ่กว่าปกติเสียดสีกันไปมาของตัวเมียในช่วงวัยเจริญพันธุ์เพื่อแสดงออกถึงความผูกพันฉันพี่น้องกันด้วย[3]
โบโนโบ (Pan paniscus) เป็นสัตว์กลุ่มลิงเอพที่มีหน้าตาคล้ายชิมแปนซี (Pan troglodytes) มาก จุดแตกต่างเท่าที่พอสังเกตได้คือโบโนโบจะตัวเล็กกว่า เสียงสูงกว่า ขนเป็นสีดำ และความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือโบโนโบเป็นลิงที่รักสงบ ไม่ค่อยทะเลาะเบาะแว้งกันเท่าไร ส่วนชิมแปนซีมีนิสัยก้าวร้าว โดยเฉพาะตัวผู้ที่ชอบยกพวกตีกันถึงตายบ่อยๆ (เคยมีนักชีววิทยาคนหนึ่งบอกว่านักการเมืองควรเอาอย่างโบโนโบซะบ้าง ไม่ใช่เลียนแบบชิมแปนซีอย่างเดียว - แต่เขาหมายถึงนักการเมืองที่สหรัฐอเมริกานะ)
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าโบโนโบและชิมแปนซีแยกสายวิวัฒนาการออกจากกันเมื่อ 1-2 ล้านปีที่แล้วอันเป็นผลมาจากการก่อตัวของแม่น้ำคองโกที่แยกประชากรออกเป็นสองกลุ่ม ส่วนสายบรรพบุรุษของเราแยกจากบรรพบุรุษของลิงทั้งสองชนิดนี้เมื่อประมาณ 4-7 ล้านปีที่แล้ว ทำให้โบโนโบและชิมแปนซีเป็นญาติที่ใกล้ชิดกับมนุษย์ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความที่โบโนโบมีเพียงประชากรกลุ่มเล็กๆ ซึ่งอาศัยอยู่ในทางฝั่งตอนใต้ของแม่น้ำคองโกเท่านั้น มันจึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไรต่างจากญาติสนิทอย่างชิมแปนซี (และโบโนโบก็เป็นลิงเอพชนิดสุดท้ายที่เราค้นพบด้วย นักชีววิทยาเพิ่งรู้ว่าโบโนโบเป็นสัตว์คนละสปีชีส์กับชิมแปนซีเมื่อประมาณ 80-90 ปีที่แล้วนี่เอง)
ที่อยู่อาศัย อยู่อาศัยในตอนกลางของทวีปแอฟริกา พบในเขตประเทศคองโก เพียงประเทศเดียวในโลก พบในธรรมชาติเพียง 5,000 ตัว[7] จัดอยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์
ปัจจุบันประเทศคองโกมีพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งเป็นป่าดงดิบที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา คิดเป็นร้อยละ 8 และต้องการเพิ่มเป็นร้อยละ 10 และร้อยละ 15 ในที่สุด โดยรัฐบาลคองโกต้องการปกป้องการทำลายป่าในพื้นที่ลุ่มคองโกด้วย
คุณเป็นคนมีน้ำใจ ขอบคุณที่กด Like.ให้ครับ
ขอบคุณภาพจาก http://www.ngthai.com/Index.aspx
ขอขคุณข้อมูลจาก http://jusci.net/node/2640
โบโนโบ - วิกิพีเดีย