"สมีคำ"โผล่บิณฑบาตที่สปป.ลาว

เมื่อ วันที่ 24 ส.ค. นายสุกิจ พูลศรีเกษม ผู้ประสานงานการเข้ามอบตัวของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมส่งข้อมูลผลตรวจดีเอ็นเอของอดีตพระวิรพล ให้กับอัยการคดีพิเศษและศาลพิจารณาคดี เพื่อจะได้ดําเนินการในขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่ากฎหมายที่ใช้ขณะกระทำ ผิดของพระเณรคำนั้นถูกกล่าวหาว่าข่มขืนกระทำชำเราเด็กไม่เกิน 15 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ซึ่งเป็นข้ออ้างที่กรมสอบสวนคดีพิเศษใช้เป็นหลักแห่งข้อกล่าวหากับพระเณรคำ นั้น จะต้องสอบประจักษ์พยานรู้เห็นเพราะเวลาผ่านพ้นมา 10 ปีแล้ว

นาย สุกิจกล่าวต่อว่า คดีข่มขืนนั้นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าถูกข่มขืนในขณะนั้นจริง และร่องรอยในการข่มขืนต้องปรากฏอยู่ด้วย ขณะกระทำความผิด เมื่อไม่มีวัตถุพยานมายืนยัน เชื่อว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องแน่นอน สรุปในความผิดดังกล่าวดีเอสไอไม่สามารถเอาผิดกับพระเณรคำได้ แม้ศาลอาญาจะออกหมายจับ

"ส่วนผลของดีเอ็นเอนั้นจะเชื่อได้อย่างไรว่า เป็นน้ำลายพระเณรคำ ถ้าหากวันไหนพระเณรคำมอบตัวแล้วเอาน้ำลายไปให้ตรวจผลออกมาไม่ใช่ใครจะรับผิด ชอบ อย่างไรก็ตามข่าวที่ออกมานั้นถูกสังคมพิพากษาไปแล้วทั้งที่เป็นการกระทำฝ่าย เดียว" นายสุกิจกล่าว

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สําหรับชีวิตความเป็นอยู่ของอดีตพระเณรคํานั้นขณะนี้ยังคงหลบอาศัยอยู่ใน สปป.ลาว บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง โดยทุกเช้าอดีตพระเณรคําจะออกจากที่พักมาบิณฑบาตและพบปะพูดคุยกับญาติโยม แม้กระทั่งฝนตกก็ยังออกมาพบ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์จะมีญาติโยมจากประเทศไทยเช่าเหมารถบัส กว่า 10 คัน เดินทางข้ามไปกราบไหว้จำนวนมาก และมีคนขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไว้ด้วย 

25 ส.ค. 56 เวลา 10:08 2,118 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...