เมื่อ 24 ส.ค. พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รองผกก.สส.สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วยพ.ต.ท.ชัยพันธ์ เพชรสดศิลป์ สว.สส. พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤษดากร ณ อยุธยา สว.สส. และตำรวจฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวีระพงษ์ วิสิทธิ์ประดิษฐ์ อายุ 30 ปี น.ส.ฉวี ภูชมชื่น อายุ 35 ปี น.ส.นุชนารถ ฮัววานิช อายุ 35 ปี น.ส.น้ำผึ้ง มั่นคงดี อายุ 51 ปี น.ส.หัสยา คำมาเปียง อายุ 19 ปี น.ส.อรทัย ถิมชัยจันทร์ อายุ 50 ปี และนายอุดมศักดิ์ จงเจตดี อายุ 20 ปี
พร้อมด้วยของกลาง ถังบรรจุก๊าซไนตรัสออกไซด์ จำนวน 7 ถัง 4 แคปซูล บรรจุก๊าซไนตรัส จำนวน 40 อัน ลูกโป่งบรรจุก๊าซ จำนวน 21 ลูก และลูกโป่งยังไม่บรรจุก๊าซ อีก 200 ลูก โดยกล่าวหาว่า ขายหรือจำหน่าย นำเข้าซึ่งยาแผนปัจจุบัน (ไนตรัสออกไซด์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้บริเวณถนนข้าวสาร แขวงตลาด เขตพระนคร กทม.
พ.ต.ท.ณฐกรกล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าบริเวณถนนข้าวสารมีผู้ค้าแผงลอยลักลอบนำลูกโป่งบรรจุก๊าซไนตรัสออกไซด์หรือลูกโป่งก๊าซหัวเราะมาบรรจุใส่ลูกโป่งขายให้กับนักท่องเที่ยว จึงสั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว กระทั่งพบร้านดังกล่าว ตรวจสอบพบว่ามีสารก๊าซไนตรัสออกไซด์ที่เป็นสารต้องห้ามจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว โดยการตั้งโต๊ะวางจำหน่ายอย่างเปิดเผย
พ.ต.ท.ณฐกรกล่าวอีกว่า ก๊าซหัวเราะดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องราตรีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพราะถ้าหากได้สูดดมก๊าซบรรจุในลูกโป่งดังกล่าวแล้ว จะมีอาการมึนเมา และหัวเราะได้ประมาณ 5 นาที ถือเป็นยาเสพติดแบบใหม่ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาจำหน่ายลูกโป่งบรรจุก๊าซหัวเราะให้กับนักท่องเที่ยวราคาลูกละ 150 บาท โดยแต่ละวันขายได้ถึง 300 ลูกเป็นอย่างน้อย
สำหรับก๊าซไนตรัสออกไซด์ ทางแพทย์ถือว่าเป็นสารต้องห้าม และไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายจากนายทะเบียน แต่มีพ่อค้าหัวใสนำก๊าซดังกล่าวมาบรรจุใส่ลูกโป่ง โดยเรียกว่าลูกโป่งก๊าซหัวเราะ จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว เมื่อลูกค้าซื้อลูกโป่งมาสูดดม จะเกิดอาการสนุกสนาน หัวเราะ ตัวลอย และมีความสุขขณะท่องเที่ยวในสถานบันเทิง แต่จะออกฤทธิ์ในระยะสั้นๆ ผู้ที่สูดดมเข้าไปเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยเมื่อหลายปีก่อนใช้เป็นยาสลบในการทำฟัน แต่พบข้อด้อยหลายอย่างจึงยกเลิกใช้ แต่ปัจจุบันสารก๊าซไนตรัสออกไซด์ นิยมใช้บรรจุในเครื่องทำวิปปิ้งครีมหรือส่วนผสม
ทางเจ้าหน้าที่จะออกกวดขันและจับกุมลูกโป่งบรรจุก๊าซอันตรายนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้แพร่ระบาด และเสียภาพลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวประเทศไทย พร้อมทั้งสืบสวนขยายผลจับกุมเจ้าของตัวจริงที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีต่อไป