ฟ้าจรดทราย ไม่มีเจตนาลบหลู่อิสลาม ช่อง 7 ขออภัยชาวมุสลิม


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กดาราวิดีโอ

          ผู้จัดช่อง 7 เผย ฟ้าจรดทราย ไม่มีเจตนาลบหลู่ชาวมุสลิม พร้อมพิจารณาปรับแก้เนื้อหาละคร หลังจุฬาราชมนตรีแนะให้ตัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออก

          หลังจากที่นายปราโมทย์ สมะดี ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ และนายสายัณห์ สุขจันทร์ ประธานฝ่ายกฎหมายมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ได้ส่งจดหมายถึงสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ยุติการเผยแพร่การออกอากาศละครเรื่อง ฟ้าจรดทราย เนื่องจากเนื้อหาในละครบิดเบือนจากหลักการของศาสนาอิสลาม สร้างความเสื่อมเสีย และทำให้ผู้คนเข้าใจศาสนาผิดนั้น

          ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2556 นายนิติกร นรินทร เจ้าหน้าที่สำนักจุฬาราชมนตรี เปิดเผยว่า ทางจุฬาราชมนตรี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่ง เรื่องการนำเสนอภาพและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งกลุ่มดังกล่าว ตระหนักถึงความไม่เหมาะสมที่อาจขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม ทางจุฬาราชมนตรีเองก็มีความห่วงใย แต่ก็พยายามปล่อยวางเพื่อความบันเทิง เช่นเดียวกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดบางเรื่อง ทว่า บางอย่างก็เกินเลยจากหลักการของศาสนาอิสลาม เช่น ฉากจุมพิตของนางเอกที่มีผ้าฮิญาบคลุมศีรษะ หรือแม้กระทั่งการจับมือกันโดยที่มีผ้าฮิญาบ ดังนั้น ในวันที่ 26 สิงหาคม ทางจุฬาราชมนตรี จะส่งหนังสือไปที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบอกช่อง 7 เพื่อให้มีการพิจารณาตัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออก แต่คงไม่ใช่การขอให้ยุติการออกอากาศ เพราะนั่นไม่ใช่หน้าที่ของจุฬาราชมนตรี

        นายนิติกร ยังกล่าวอีกว่า การร้องเรียนนั้น เป็นการร้องเรียนของชาวมุสลิมกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งหากผู้จัดสามารถแก้ไขไปในทางที่ถูกต้อง ก็จะช่วยบรรเทาความรุนแรงได้ แต่หากไม่ปรับแก้ ละครเรื่องนี้ก็อาจเป็นชนวนทำให้เกิดผลกระทบต่อชาวมุสลิมทั่วโลก นำไปสู่ความแตกแยกและความรุนแรงมากขึ้น

       ขณะที่ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง7 ได้เชิญผู้บริหารสถานีและผู้ผลิตมาประชุมกันเรื่องดังกล่าว โดยที่นายพลากร สมสุวรรณ กล่าวว่า ละครเรื่องฟ้าจรดทราย เป็นบทประพันธ์ของคุณโสภาค สุวรรณ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของหญิงชาย เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ประเทศแถบอาหรับ จุดประสงค์ก็เพื่อความบันเทิง และผู้สร้างเพียงต้องการสร้างละครให้ตรงตามบทประพันธ์มากที่สุด มิได้มีเจตนาดูหมิ่นหรือดูถูกศาสนาอิสลามแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเข้าละคร ได้มีการแจ้งเจตนาเพื่อการผลิตละคร และเมื่อทราบข่าวเรื่องการร้องเรียน ทางผู้จัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้ทบทวนเนื้อหาและรีบจะติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง

         ด้านนายสยาม สังวริบุตร กรรมการผู้จัดการบริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด ในฐานะผู้กำกับละคร เผยว่า เมื่อทราบข่าวแรกจากสื่อ สิ่งแรกก็คือต้องขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้อง ละครเรื่องนี้สร้างตามบทประพันธ์ของคุณโสภาค สุวรรณ ก่อนที่จะถ่ายทำละคร ก็มีการส่งบทละครทั้ง 12 ตอนไปให้ทางสถานทูตอียิปต์ กระทรวงวัฒนธรรมอียิปต์ เพื่อให้ตรวจสอบการถ่ายทำ เวลาถ่ายทำก็ถ่ายทำในโรงถ่ายของรัฐบาลอียิปต์ เราตั้งใจสื่อสารให้เห็นความงดงามของเมืองฮิลฟารา ไม่มีเจตนาลบหลู่ศาสนาใด ๆ

         ในส่วนมุมมองของนักแสดงนั้น ทาง ตุ้ย ธีรภัทร์ พระเอกของเรื่องผู็รับบท ชารีฟ กล่าวว่า ตนก็แสดงไปตามบทละคร และผู้กำกับก็กำหนดทิศทางให้ดีที่สุด เพราะตนต้องการสร้างความสุขให้ผู้ชม โดยที่ชารีฟและมิเชลล์ยึดเรื่องความรักเป็นสำคัญเท่านั้น ถ้าจะมีมุมมองใดที่ไม่ตรงกัน ก็ขอให้หันหน้ามาคุยกัน

       ด้าน เอมมี่ มรกต กิตติสาระ ผู้รับบท แคชฟีย่า กล่าวว่า ส่วนตัวตนเองทำตามหน้าที่ที่ผู้กำกับสั่ง และตามบทที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้มากกว่าหรือน้อยกว่าที่บทต้องการ เรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับหลาย ๆ คน หากมีอะไรผิดพลาด ตนเชื่อว่าทางทีมงานไม่มีเจตนาต้องทำอย่างนั้น ทีมงานก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ อะไรที่ไม่แน่ใจก็จะไม่ทำ ส่วนบทของตนที่ถูกพ่อทำร้ายนั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนา สิ่งนี้คือสิ่งที่สะท้อนสังคม ไม่ได้ต้องการลบหลู่ศาสนา


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



 
Credit: http://drama.kapook.com/view69569.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...