สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์คาร์บอมบ์ 2 ครั้ง ใกล้กับมัสยิดของชาวสุหนี่ 2 แห่งในเมืองตริโปลี เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเลบานอน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ว่าเป็นการ "ก่อการร้าย" เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 400 คน มากที่สุดนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองเลบานอน ระหว่างปี 2513-2533
นอกจากนี้ ยูเอ็นเอสซียังเรียกร้องทางการเลบานอนเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในวิกฤตสงครามกลางเมืองซีเรียในทุกกรณี หลังมีรายงานว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นของนักรบต่างชาติ ซึ่งสนับสนุนฝ่ายกบฏซีเรีย
ขณะที่นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น ออกมาประณามเหตุการณ์อย่างรุนแรงเช่นกัน พร้อมกับเรียกร้องให้ทางการเลบานอนจับตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ และเรียกร้องให้ชาวเลบานอนปรองดอง เพื่อความสามัคคีและความมั่นคงของประเทศ
แม้จะยังไม่มีกลุ่มคนใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่ทางการเลบานอนสันนิษฐานว่า เชค ซาเลม ราฟิอี ผู้นำกลุ่มสุหนี่ในเลบานอน อาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีในครั้งนี้ เนื่องจากเชค ราฟิอีเป็นผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านกลับกลุ่มนักรบฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นชาวชีอะห์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานยืนยันแล้วว่า เชค ราฟิอี รอดมาได้