อย่าคิดว่ารู้จัก "ชิเซโด้" ดีพอ

 

 

 

 

 

บริษัทญี่ปุ่นอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจโดยเฉพาะสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบเครื่องสำอางจากญี่ปุ่น นั่นก็คือ บริษัทชิเซโด้ ค่ะ อันที่จริง ที่พูดถึงบริษัทนี้ไม่ใช่เพราะดิฉันรักสวยรักงาม และดิฉันก็ไม่ได้จะมารีวิวเครื่องสำอางวันนี้ เกตุวดีเป็นคนที่เน้นคอนเซปท์สวยตามธรรมชาติ (สวยตามมีตามเกิด) ไม่ค่อยได้แต่งหน้าอะไรหรอกค่ะ แต่ที่อยากเล่าเรื่องนี้เพราะเราเคยไปคลุกคลีกับบริษัทนี้มากว่า 4 เดือนค่ะ 
 



เรื่องของเรื่องคือ อาจารย์ญี่ปุ่นมอบหมายให้เกตุวดีและเพื่อนไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับชิเซโด้เพื่อที่ท่านจะเอาไปวิเคราะห์ต่อ เกตุวดีเลยได้ไปเก็บข้อมูลที่พิพิธภัณฑ์บริษัทที่จ.ชิซุโอกะเอย ได้นั่งชิงกังเซ็นพบท่านประธานที่โตเกียวเอย ได้ Sample มาใช้ฟรีเอย... หนึ่งในเรื่องประทับใจที่ดิฉันยังจำได้แม่นตอนนี้ คือตอนที่ผู้จัดการชิเซโด้พาเราไปทานข้าวหน้าปลาไหลชามละพันกว่าบาท ซึ่งพี่แกต้องจองร้านล่วงหน้า 3 วัน ไม่งั้นคิวเต็ม  จำได้ว่าปลาไหลมันนุ่ม หอม ฟู และไม่เลี่ยนเลย อร่อยที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยทานมา 
แหม่... ความทรงจำดีๆของดิฉันเกี่ยวกับชิเซโด้ไม่ได้มีแค่ของกินหรอกค่ะ วันนี้เกตุวดีจะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์“ชิเซโด้” ให้เพื่อนๆฟังนะคะ 

1. คำอ่านที่ถูกต้อง

“ชิเซโด้” เป็นคำย่อจากประโยคหนึ่งของบทกวีจีนที่ว่า “สรรเสริญคุณค่าของโลกที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตใหม่และสรรค์สร้างคุณค่าใหม่ๆ” ค่ะ ฟังดูยิ่งใหญ่ไฮโซมากๆ 

จริงๆ แบรนด์นี้ คนญี่ปุ่นจะอ่านว่า “ฉิ-เซ-โดะ” ไม่เข้าใจว่าทำไมพอข้ามทะเลมาเมืองไทย จาก “โดะ” ก็กลายเป็น “โด้”ไปได้

จะว่าไป ไม่ใช่แค่ “ฉิเซโดะ” แบรนด์เดียวที่เจอพี่ไทยเปลี่ยนชื่อ แบรนด์ญี่ปุ่นอีกหลายแบรนด์ก็โดนคนไทยขืนใจ ออกเสียงให้ผิดแปลกจากต้นฉบับ อาทิ 

   “โท่-โย-ถะ” กลายเป็น “โต-โย-ต้า”
   “อะ-จิ๊-โนะ-โหมะ-โตะ” กลายเป็น “อะ-ยิ-โนะ-โม-โต๊ะ”
   “โซ้-หนิ” กลายเป็น “โซ-นี่”
   “โผะ-เค-มน” กลายเป็น “โป-เก-ม่อน”

น่าสงสารจริงๆ เอาเถอะค่ะ ในบทความนี้ เกตุวดีเอาใจท่านผู้อ่านด้วยการเรียกสไตล์ไทย “ชิเซโด้” ก็แล้วกัน 
   
2. อดีตของเธอคือ “ร้านขายยา”

ผู้ก่อตั้งชิเซโด้เป็นอดีตเภสัชกรในกองทัพเรือ ชื่อคุณ Arinobu Fukuhara ค่ะ ว่าแต่...มาทายกันดีกว่าว่าชิเซโด้มีอายุกี่ปีแล้ว ติ๊กตอกๆ

คุณ Fukuhara ตั้งร้านตั้งแต่ปี ค.ศ. 1872 ค่ะ ปีนี้ก็ปีที่ 140 พอดี ใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงช่วงรัชกาลที่ 5 ค่ะ ตรงกับยุคเมจิของญี่ปุ่นพอดี คนญี่ปุ่นยังใส่กิโมโนเดินโนะเนะเต็มเมืองอยู่เลยค่ะ 
 

 

โฆษณา: สาวกิโมโนแบกขวดโลชั่น



รุ่นคุณพ่อก็ยังขายยาเป็นหลักอยู่ เป็นร้านแรกๆ ในญี่ปุ่นที่เริ่มเอายาตะวันตกเข้ามาขาย มาเริ่มทำเครื่องสำอางจริงจังมากขึ้นสมัยลูกชายแกขึ้นมาบริหารค่ะ 

3. เราไม่หยุดแค่ “ยา” และ “เครื่องสำอาง”

ปุจฉา: ชิเซโด้เคยจำหน่ายสินค้าข้อใดต่อไปนี้

ก. โซดา
ข. ยาสีฟัน
ค. ไอศกรีม
ง. ถูกทุกข้อ

โจทย์สไตล์ข้อสอบมัธยมซึ่งคำตอบที่มักจะถูกต้องก็คือ “ถูกทุกข้อ” ข้อนี้ก็เช่นกันค่ะ ชิเซโด้เป็นบริษัทญี่ปุ่นเจ้าแรกที่ผลิตยาสีฟันแบบเนื้อเค้กเอง เอารูปไปดูเป็นขวัญตา
 

 

ยาสีฟันชิเซโด้ (ฝาเขียนยี่ห้อ “ฟุกุฮาร่า” นามสกุลเจ้าของอยู่)



นอกจากนี้ ทางบริษัทยังนำเข้าเครื่องทำโซดาและไอศกรีมมาขายในร้านค่ะ นึกสภาพยุคร.5 บ้านเรานำเข้าน้ำแข็งจากสิงคโปร์ มีแค่เจ้าขุนมูลนายเท่านั้นที่มีโอกาสลิ้มลอง ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน ไอศกรีมกับโซดาเนี่ย ถือเป็นของแปลกใหม่ไฮโซมาก ใครมีโอกาสได้ทานจะเป็นเกียรติ์แก่วงศ์ตระกูลและได้รับการกล่าวขานทั่วเมือง...อืม เว่อร์ไป เอาเป็นว่า ศักดิ์ศรีประมาณคริสปี้ครีมเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วน่ะค่ะ

เพราะฉะนั้น จะว่าไป ร้านขายยาชิเซโด้ไม่ใช่ร้านขายยาธรรมดา แต่เป็นร้านที่ไฮโซจะมาเยื้องย่างซื้อยาหรือเครื่องสำอางกัน บรรยากาศเดิร์นๆ เก๋ๆ เดินลองเครื่องสำอางไป เลียไอติมไป ชิลสุดๆค่ะ 

4. ร้านอาหาร “ชิเซโด้” !! 

เพื่อให้ไฮโซญี่ปุ่นทั้งหลายสุนทรีมากขึ้น ชิเซโด้สร้างร้านอาหารฝรั่งชื่อ “Shiseido Palour” ที่ถนนกินซ่า (ย่านคนรวยคล้ายๆ สุขุมวิทบ้านเรา เพียงแต่รถไม่ติดและสะอาดเรียบร้อยเป็นระเบียบค่ะ) ตั้งแต่ปี 1922 ปัจจุบันก็ยังมีอยู่นะคะ ลองมาดูภาพบรรยากาศร้านกัน
 

 

อดีต

                     
 

 

ปัจจุบัน



ใครอยากลิ้มลอง ไม่มีปัญหาค่ะ ขอแค่คุณไปที่ โตเกียวย่านกินซ่าและมีเงินพอจ่ายก็ไปทานได้แล้ว อาหารก็พื้นๆ ราคาก็พื้นๆ เช่น ข้าวแกงกะหรี่ (900 บาท) ไข่ห่อข้าว (800 บาท) ข้าวผัด (700 บาท) มันบดทอดโครอกเกะ ( 800 บาท) 
 

 

เมนูอาหาร ณ Shiseido Parlour



คุณอาจบ่นในใจ เอ๊ะ ... ราคามันยังไม่ไฮโซอย่างที่คิดนี่นา ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อรับมือกับไฮโซบางกอกอย่างคุณๆ ทางร้านเตรียมเมนูพิเศษไว้พร้อมรับอยู่แล้ว ข้าวแกงกะหรี่กุ้งมังกรและหอยเป๋าฮื้อ เดอลุกซ์ สนนราคา 3,500 บาท แค่นั้นเอง 
 

 

ทานเสร็จสามารถเก็บหนวดกุ้งกลับบ้านไปฝากลูกหลานที่เผชิญปัญหาจอดำได้ คุ้มเห็นๆ


 

 

มีบริกรมาย่างกันต่อหน้าต่อตา



5. ขนม “ชิเซโด้” !!

สุดท้ายนี้ ถ้าราคาอาหารหรือเครื่องสำอางมันอาจเอื้อมเกินชนชั้นวรรณะของเราไปแล้ว คุณอาจเลียแผลใจด้วยการซื้อขนมชิเซโด้มาทานแทน ส่วนใหญ่จะเป็นพวกขนมเค้ก คุ้กกี้ค่ะ  
 

 

ขนม “ชิเซโด้”



หาซื้อได้ที่ร้านชิเซโด้ตรงถนนกินซ่า สถานีโตเกียว สนามบินฮาเนดะ ห้างอิเซตันบางแห่ง และอื่นๆ ไปเซิร์ชกันเอาเอง เดี๋ยวจะโดนประท้วงให้ไล่ออกเพราะโฆษณาแฝง ราคาก็มีตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไปค่ะ

กรณีที่เราจะไปเที่ยวหลั่นล้าที่ญี่ปุ่น แต่ดันมีคุณเพื่อนที่ฝากซื้อเครื่องสำอางชิเซโด้แบบไม่ยั้งคิดลิสท์ยาวๆ คราวหน้าลองซื้อขนมชิเซโด้ไปฝากสักกล่องแทนสิคะ นี่ไงแก ... ชิเซโด้ที่แกอยากได้ มันจะได้ไม่ต้องฝากเราอีกเลย โฮะ โฮะ โฮะ 

ตอนเขียนคำนำก็โม้ไว้ว่า ดิฉันไม่ได้จำได้แต่เรื่องข้าวหน้าปลาไหลหรือ เรื่องของกินอย่างเดียว แต่เล่าไปเล่ามา สุดท้ายก็จบด้วยกุ้งมังกรและเค้กคุ้กกี้ ฮ่าฮ่า หวังว่าความทรงจำของดิฉันจะไม่ไปสั่นคลอนความทรงจำดีๆ ของคุณผู้อ่านเกี่ยวกับเครื่องสำอางชิเซโด้นะคะ 

#อย่าคิดว่ารู้จัก #ชิเซโด้
hanachoi
เจ้าของบทประพันธ์
สมาชิก VIPสมาชิก VIPสมาชิก VIP
23 ส.ค. 56 เวลา 09:45 2,503 80
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...