คุมตัว "ไอ้บอย" ทำแผนฯ ฆ่าเผาสาวผมแดง ทิ้งศพริมถนนวงแหวนตะวันตก

 

จากกรณีสภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพน.ส.กันต์กนิษฐ์ หรือแหม่ม สุนทรัตตา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 367/8 ม.8 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน  ถูกคนร้ายจับมือมัดเท้า เปลือยกาย แล้วใช้กาวราดจุดไฟเผา ซ้ำทิ้งศพเอาไว้ บริเวณริมถนนสายกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 วงแหวนตะวันตกหลักกิโลเมตรที่ 80-81 หมู่ 12 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาได้จับกุมตัว นายจักรพันธ์ หรือบอย กัญจน์ดารา อายุ  40 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ตายและเป็นติดหนี้สินจำนวนหลายแสนบาท เป็นผู้ลงมือฆ่า สาเหตุเพราะถูกผู้ตายทวงถามเงินที่ยืมไป จนเกิดการทะเลาะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกัน ก่อนที่จะจับถอดเสื้อผ้าใช้ถุงดำครอบหัวมันด้วยเสื้อผ้าและผ้าเทปจนเสียชีวิต แล้วนำศพมาทิ้งแล้วจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้คุมตัวผู้ต้องหา ไปทำการตรวจร่างกาย ที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา  พบว่าตามร่างกายมีร่องรอยขีดข่วนตามร่างกายหลายแห่ง และตรวจเก็บดีเอ็นเอจากผู้ตาย เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน นำไปเปรียบเทียบกับชิ้นเนื้อในเล็บมือของผู้ตาย จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.พระอินทร์ราชา  อ.บางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ส.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบชภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผบช. พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รองผบช.  พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก. พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา   พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สภ.พระอินทร์ราชา ร่วมประชุมเพื่อสรุปคดีถึงการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆใช้เวลากว่า 1 ชม.

 จากนั้นได้ควบคุมตัวนายจักรพันธ์ หรือบอย กัญจน์ดารา อายุ  40 ปี สวมเสื้อเกราะ หมวกแก๊ปสีดำ แว่นตาสีดำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนจำนวนมากพร้อมด้วยญาติของผู้เสียชีวิตมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการขับรถเข้ามาจอดจุดเกิดเหตุ  อุ้มผู้ตายลงจากรถแล้วทิ้งลงข้างทาง ก่อนที่จะจุดไฟเผา แล้วหลบหนีไป ใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 20 นาที

หลังการทำแผนนายบอยได้เปิดปากรับสารภาพต่อหน้าพล.ต.ท.นเรศ ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า ผู้ตายแต่เพียงคนเดียวจริงโดยเริ่มต้นได้ขับรถยต์เก๋งนิสสัน มาร์ชสีเขียว หมายเลขทะเบียน1กฒ-7769 กรุงเทพ ไปรับผู้ตายที่บริเวณป้ายรถเมล์ รามอินทรา  แล้วขับพาขึ้นทางด่วนขณะขับรถได้มีปากเสียงกับผู้ตายโดยผู้ตายใช้เท้าถีบจนรถยนต์เสียหลักไปชนกับขอบทางด่วนจึงเกิดความโมโหจอดรถแล้วใช้สายรัดสายไฟแบบรูดที่อยู่ในรถมัด ที่ข้อมือและเท้าแล้วขับรถต่อไปบนถนนมอเตอร์เวย์มุ่งหน้ามาทางอ.บางปะอิน  ระหว่างนั้นผู้ตายขอให้แก้มัดออกจึงได้จอดรถแก้มัดออก แต่ผู้ตายได้ทำร้ายตนและพยายามจะหนีลงจากรถจึงได้ตัดสินใจจับผู้ตายถอดเสื้อผ้าป้องกันไม่ให้หนีลงจากรถ แล้วจับมัดผู้ตายอีกครั้ง  จากนั้นได้แวะเติมน้ำมันจุดพักรถ ริมถนนมอเตอร์เวย์ เขต  อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระหว่างที่อยู่บนมอเตอร์เวย์ ผู้ตายยังด่าทอและข่มขู่ จึงเกิดความโมโห ได้ใช้เทปกาวที่อยู่ในรถปิดปากแล้วใช้ถุงดำคลุมศรีษะแล้วใชเทปกาวพันทับอีกรอบแล้วขับต่อมุ่งหน้าไปทางวงแหวนตะวันตกมุ่งหน้า อ.บางบัวทอง ตลอดเส้นทางผู้ตายยังด่าไม่หยุดจึงได้ใช้เสื้อผ้าของผู้ตายมัดอีกชั้นแล้วขับมาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงได้นำผู้ตายลงจากรถแล้วอุ้มทิ้งลงข้างทาง แล้วใช้กาวซึ่งอยู่ในรถเทราดที่ตัวผู้ตายแล้วจุดไฟเผาเพื่อหวังทำลายหลักฐานแล้วขับรถหลบหนีไป

นางมาลัย สุนทรัตตา อายุ70 ปี แม่ของผู้ตาย พร้อมน้องสาวผู้ตาย เดินทางมาดูการทำแผนด้วยอาการเศร้าโศกร้องไห้ส่งเสียงบอกว่า "เขาจับคนร้ายได้แล้วนะแหม่ม"  แฃะกล่าวว่ายังทำใจไม่ได้ไม่คิดว่าลูกสาวจะมาเสียชีวิตแบบ นี้แม่ไม่คิดอะไรยังไม้ได้ตัดสินใจว่าจะให้อภัยกับผู้ต้องหา ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็วและอยากให้สืบสวนว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่ ลูกสาวเป็นคนดีทำมาหากินช่วยเหลือครอบครัวมาตลอดเป็นที่รู้กันของเพื่อนบ้าน มีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือจากลูกสาวบ่อยครั้งได้ช่วยเหลือไปตลอด ไม่คิดว่าคนที่เขาช่วยเหลือจะกลับมาทำร้ายลูกสาวตนลักษณะนี้

พล.ต.ท.นเรศ  เปิดเผยว่าผู้ต้องหารับสารภาพว่าลงมือฆ่า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจะต้องสอบสวนดูจากคำรับสารภาพว่าจะสอดคล้องกับหลักฐานต่างๆที่ได้มาหรือไม่ สาเหตุที่ฆ่าเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับหนีสิ้น ต้องขอบคุณสื่อทุกแขนงโดยเฉพาะนักข่าวภูมิภาคที่ช่วยเผยแพร่ข่าวโดยความรวดเร็วทำให้ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ประสานงานกันอย่างรวดเร็วขอให้ญาติผู้ตายหากยังมีข้อสงสัยให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยด่วนรถยนต์ของผู้ตายที่หายไปขณะนี้พบแล้วอยู่ระหว่างตรวจยึดมาตรวจสอบ 

21 ส.ค. 56 เวลา 16:32 2,209 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...