สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมว่า ชาเนย่า เคลลี่ หญิงอเมริกัน ชาวเมืองนิวยอร์ก ได้สารภาพว่า เธอได้โกหกว่าพ่อได้ข่มขืนเธอ ส่งผลให้เขาต้องติดจำคุกถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 15 ปีแล้ว โดยเจ้าตัวได้เรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวบิดาของเธอเพราะเธอจำเป็นต้องโกหก และหวังว่าการสารภาพของเธอจะไม่สายจนเกินไป
ชาเนย่ากล่าวว่า เธอได้กล่าวหานายดาร์ริล เคลลี่ บิดาของเธอว่าข่มขืนเธอ ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 9 ปี เพราะถูกแม่ซึ่งติดยาและเหล้าบังคับ ทำให้พ่อของเธอถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 40 ปี ด้วยความผิดหลายกระทงรวมทั้งข่มขืนและทำร้ายทางเพศด้วย โดยบิดาของเธอซึ่งก็ติดเหล้าได้พยายามจะเลิกนิสัยดังกล่าว เพื่อทำให้ครอบครัวของเขามีความสุข
ทว่า แม่ของเธอกลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายหนักขึ้น เพราะเธอได้ขายตัวเพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพติด และอารมณ์แปรปรวน ตั้งคำถามบังคับให้เธอตอบว่า พ่อได้จับอวัยวะส่วนสงวนของเธอ โดยขู่จะตีเธอ ก่อนที่แม่เธอจะแจ้งความ และบิดาของเธอถูกตัดสินจำคุกโดยไม่มีการพิสูจน์ร่างกายเธอ เนื่องจากแม่และชาเนย่าได้ร่วมกันให้การต่อคณะลูกขุน ซึ่งฝ่ายหลังเห็นว่าเป็นหลักฐานเพียงพอที่จะตัดสินว่า นายดาร์ริลได้ข่มขืนลูกสาวตัวเองจริง แต่บิดาของเธอปฏิเสธข้อกล่าวหา ทำให้เขาถูกตัดสินโทษจำคุกยาวจากคณะลูกขุน โดยไม่ยอมรับสารภาพแม้ว่าจะได้ลดโทษ
ชาเนย่ากล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา เธอได้ไปเยี่ยมบิดาที่เรือนจำตั้งแต่อายุ 15 ปี เธอได้กอดพ่อและขออภัยเขา ขณะที่พ่อของเธอบอกว่า เขารักเธอ และไม่ได้ตำหนิโทษเธอเลย ขณะที่นางชาเรด แม่ของชาเนย่าก็ยืนยันว่า สิ่งที่ลูกสาวเธอพูดเป็นเรื่องจริง โดยเธอโทษว่าสาเหตุที่เธอก่อเหตุเลวร้ายดังกล่าวเพราะฤทธิ์เหล้า ทั้งนี้ ด้านอัยการเขตในกรุงนิวยอร์กได้เตรียมที่จะสอบสวนคดีนี้ใหม่แล้ว