ผู้ตรวจการแผ่นดินเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง ส.ส.-ส.ว.ผลักดันออกกฎหมายนิติกรรมอำพราง แก้ปัญหาต่างชาติถือครองที่ดินในเมืองไทย ตะลึงพบข้อมูลต่างชาติยึดครองที่ดินไปแล้วถึง 1 ใน 3 ของประเทศ คิดเป็นกว่า 100 ล้านไร่ โดยเฉพาะชายหาดสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต สมุย หรือแม้แต่ระยอง กว่า 90% เป็นของต่างด้าว และตอนนี้ลามไปถึงภาคเกษตรกรรมแล้ว ใช้วิธีแต่งงานกับคนไทย หรือให้คนไทยถือครองแล้วทำสัญญาจำนอง-เช่าระยะยาว เป็นประกัน เน้นเพิ่มโทษตัวการให้จำคุก 5-20 ปี รวมทั้งพวกทนายที่คอยช่วยเหลือ และตัวแทนถือครองร่วมรับผิดด้วย เผยขุนค้อนร่วมหนุนเร่งออกกฎหมายยึดที่ดินกลับคืนมาเป็นของคนไทยตามเดิม
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่มีอำนาจในการเสนอกฎหมายและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ส.ส., ส.ว. คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมที่ดิน เป็นต้น เพื่อรับฟังความคิดเห็นและร่วมกันผลักดันร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดลักษณะตัวแทนอำพราง พ.ศ.... ซึ่งร่างต้นแบบกฎหมายดังกล่าวที่มีทั้งสิ้น 40 มาตรา
สาระสำคัญคือมีคณะกรรมการธุรกรรมอำพราง คณะกรรมการกองทุนเพื่อการให้สินบนนำจับ เพิ่มโทษคนต่างชาติที่เป็นตัวการ ผู้จัดการ หรือกรรมการที่มีส่วนทำนิติกรรมอำพราง ให้จำคุก 5-20 ปี หรือปรับ 5 แสนถึง 2 ล้านบาท ขยายโทษไปถึงคนไทยที่เป็น ผู้สนับสนุน ช่วยเหลือในการทำนิติกรรมอำพราง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักกฎหมาย หรือทนาย ให้มีความผิดมีโทษจำและปรับ เป็น 2 ใน 3 ของตัวการ และมีมาตรการผ่อนปรน ด้วยบทเฉพาะกาล ให้ผู้เลี่ยงกฎหมายสามารถจัดการหรือปรับธุรกรรมให้ถูกต้องภายใน 1 ปี จะยกเว้นไม่ต้องรับผิด
นายศรีราชากล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่าการทำธุรกรรมในลักษณะตัวแทนอำพราง (Nominee) ที่เกี่ยวกับการครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ สามารถพบการกระทำในรูปแบบการสมรสกับคนไทย แล้วให้คู่สมรสผู้มีสัญชาติไทยถือครองที่ดินแทน แต่สิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดินยังคงเป็นของคนต่างด้าว โดยให้บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเป็น ผู้ซื้อที่ดินและทำสัญญากู้ยืมเงิน จำนอง หรือทำสัญญาเช่าไว้กับคนต่างด้าวเพื่อเป็นหลักประกัน การทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยอาศัยการจดทะเบียนและมีหลักฐานทางทะเบียนเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่าอำนาจในการควบคุมกิจการยังเป็นของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวมี หุ้นบุริมสิทธิซึ่งมีสิทธิพิเศษในการควบคุม (Control) การบริหารจัดการบริษัท
"ปัจจุบันที่ดินสวยๆ ริมทะเลใน จ.ภูเก็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกาะช้าง จ.ตราด กว่าร้อยละ 90 ตกเป็นของคนต่างด้าว หรือแม้แต่หาดบ้านเพ จ.ระยอง ที่นายก อบต. 15 ตำบลก็ยังระบุว่าหาดเพ ยาว 10 ก.ม. กลายเป็นของต่างชาติไปแล้ว 9 ก.ม. ที่น่าเป็นห่วงคือในภาคการเกษตร ก่อนหน้านี้สิงคโปร์เข้ามาขออนุญาตกรมที่ดินปลูกผลไม้ แล้วไปขึ้นโฆษณาในเครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวว่าหากอยากกินผลไม้อร่อย ต้องกินที่สิงคโปร์ ทั้งๆ ที่ผลไม้นั้นปลูกบนแผ่นดินไทย" นายศรีราชากล่าว
ผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวอีกว่า อนาคตที่ เราจะเปิดประชาคมอาเซียนนโยบายของรัฐ จะปล่อยเฉยไม่ได้ ต่างชาติเขาจะเข้ามายึดหมด ซึ่งไม่ได้ยึดเฉพาะที่ดินอย่างเดียว แต่จะมาประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย และที่ยังไม่ตื่นตัวกันในขณะนี้ก็คือภาคเกษตรกรรม เพราะแหล่งเพาะปลูกอาหารของโลกมันลดน้อยลงเรื่อยๆ ขณะที่โซนเพาะปลูกที่ดีที่เป็นครัวของโลกก็คือโซนของประเทศไทย ลาว พม่า ฉะนั้นถ้าเราดูแลไม่ดีไม่สามารถทำให้สิทธิประโยชน์และผลประโยชน์ตกเป็นของคนไทย ตรงนี้ก็จะกลายเป็นปัญหาของชาติในที่สุด
นายศรีราชายังกล่าวอีกว่า หน่วยงานที่เข้าร่วมระดมความคิดเห็นต่างแสดงความเห็นด้วยในการควบคุมการยึดครองที่ดินของคนต่างด้าว แต่ก็มีข้อท้วงติงว่าขณะนี้นโยบายของรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน เพราะการจำกัดการถือครองทรัพย์สินในประเทศไทยของคนต่างด้าวมักจะถูกมองว่าอาจจะไปขัดกับหลักการส่งเสริมการลงทุน อีกทั้งการยกร่างกฎหมายใหม่โดยทำเป็นกฎหมายเฉพาะนั้นต้องใช้เวลานาน และถ้าเป็นกฎหมายแล้วไม่มีการบังคับใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์
ดังนั้น น่าจะเป็นเรื่องง่ายและทำได้รวด เร็วกว่า หากใช้วิธีการปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่แล้วให้ครอบคลุมและเข้มข้นยิ่งกว่า เช่น อาจจะผลักดันให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการปราบปรามการฟอกเงิน โดยให้เรื่องการถือครองที่ดินของคนต่างด้าวเพิ่มเข้าไปเป็นอีกมูลฐานความผิดหนึ่งของกฎหมายฟอกเงิน
ด้านนายประสพ บุษราคัม อดีตส.ส. ในฐานะประธานกรรมการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายการได้มาซึ่งที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินและการบังคับใช้กฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เห็นด้วยกับการมีกฎหมายดังกล่าว ซึ่งนายสมศักดิ์ เกียรติ สุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้นโยบายกับคณะกรรมการที่ตนเป็นประธานว่า ประเทศไทยมีที่ดินที่มีโฉนดทั้งหมด 320 ล้านไร่ แต่ขณะนี้ 100 กว่าล้านไร่กลายเป็นของคนต่างชาติแล้ว จึงควรพิจารณาตรากฎหมาย หรือปรับปรุงกฎหมายเพื่อที่จะไล่ล่าทวงคืนที่ดิน 100 กว่าล้านไร่นี้ให้กลับคืนมาเป็นของคนไทย ซึ่งอยากเสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินนำร่างกฎหมายดังกล่าวไปเสนอยังพรรค การเมืองทุกพรรค เพื่อให้เกิดการผลักดันเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป
นายศรีราชากล่าวภายหลังการหารือว่า จะนำข้อเสนอต่างๆ ไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับนี้ และเห็นว่าจำเป็นต้องผลักดันให้เป็นกฎหมายเฉพาะ เพราะถ้าจะแก้ไขโดยไปเพิ่มเป็นมูลฐานความผิดในกฎหมายฟอกเงินก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ซึ่งก็จะพยายามเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไปที่ นายกฯ สภา และส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในปลายสมัยการประชุมสภานี้