เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.สุนทร นาโม ร้อยเวร สภ.เมืองบึงกาฬ รับแจ้งเหตุมีพระผูกคอตายอยู่ในกุฎีวัดป่าธรรมรังสี บ้านคำภู หมู่ที่ 5 ต.ชัยพร อ.เมือง จ.บึงกาฬ จึงรุดไปชันสูตรพร้อมด้วย น.พ.ศุภฤกษ์ วิภาสจรรโลง แพทย์เวร ร.พ.บึงกาฬ หน่วยกู้ภัยวีอาร์บึงกาฬและหน่วยกู้ภัยนทีธรรม ภายในวัดมีชาวบ้านกว่า 100 คนมามุงดูเหตุการณ์ต่างจับกลุ่มวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิปูนหลังเล็ก สูงจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร พบศพพระทวีวัฒน์ โพธิภิรมณ์ อายุ 39 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 19/1 หมู่ 1 ต.คะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร สภาพศพนอนหงายอยู่บนพื้นห้องข้างเตียงนอนเนื้อตัวยังอุ่นๆ อยู่ และบนเตียงนอนพบเก้าอี้พลาสติกสีแดงวางอยู่ด้านบนขื่อมีเชือกไนล่อนสีเหลืองโยงห้อยลงมายาวประมาณ 4 เมตร คาดว่าจะเป็นอุปกรณ์สื่อมรณะฆ่าตัวตายในครั้งนี้
จากการสอบถามพระสิทธิโชค สิริสาโร อายุ 24 ปี รักษาการเจ้าอาวาส กล่าวว่า หลังจากฉันอาหารอยู่บนศาลาเสร็จ ก็ได้แยกย้ายกันขึ้นกุฏิ เก็บบาตรเก็บจีวร เสร็จแล้วจึงเดินลงมาเรียกพระผู้ตายซึ่งอยู่ในกุฏิห่างกันเพียง 30 เมตร ไปช่วยกันทำความสะอาดลานวัด แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงเดินเข้าไปใกล้มองผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ มองเห็นผู้ตายห้อยโตงเตงอยู่บนขื่อ จึงได้ตะโกนเรียกลูกศิษย์มาช่วยกันตัดเชือกไนล่อนนำตัวลงมาปฐมพยาบาล แต่ก็ช่วยชีวิตไม่ทันแล้ว
พระสิทธิโชค เล่าต่อไปว่า ตนและผู้ตายบวชที่วัดเดียวกันที่จังหวัดพิจิตร และมีพระอุปัชฌาย์คนเดียวกัน แต่ตนบวชก่อน 1 ปี ผู้ตายบวชได้ 2 ปี ถือว่าเป็นพระรุ่นน้องจึงได้ชักชวนมาจำพรรษาด้วยกันที่วัดนี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ไม่เคยบ่นอะไรให้ฟัง ยังทำกิจของสงฆ์ตามปกติ แต่ก็มีอยู่บ้างที่ผู้ตายเล่นเฟซบุ๊กและโทรไปหาโยมผู้หญิงคนหนึ่งที่จังหวัดอยุธยา
ด้านนางสุมาลี โพธิภิรมณ์ พี่สาวพระผู้ตาย เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า ได้โทรศัพท์คุยกันบ่อยกับพระน้องชายก็ไม่เห็นบ่นอะไรให้ฟัง ได้ถามข่าวคราวธรรมดา โรคประจำตัวก็ไม่มีก่อนจะมาบวชเคยถูกทำร้ายจนหมดสติ เป็นคนเกเรพอสมควรมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านประจำ โดยเฉพาะเวลาเมาเหล้า จึงตัดสินใจลาบวชเพื่อทำความดีและตัดจากโลกภายนอกหนีไปจำพรรษาที่จังหวัดบึงกาฬ “คนผ่านโลกมามากเช่นนี้ไม่น่าคิดสั้น จึงสงสัยว่าจะมีเงื่อนงำอย่างอื่นหรือไม่” จากนั้นได้ชวนญาติๆ ขึ้นรถไปดูศพน้องชายทันที