เมทิโอร่า ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศกรีซ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมเป็น
จำนวนมาก ด้วยความเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างอยู่บนก้อนหินใหญ่สูงสง่า โดยอดีตสถานที่แห่งนึ้
ถูกใช้เป็นที่พํานักของนักบวชคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์
ซึ่งได้สร้างอารามไว้บนยอดเขาด้วยมีความเชื่อที่ว่า จะได้ใกล้ชิดกับสวรรค์ และเป็นการง่ายต่อการ
ป้องกันศาสนาอื่นมารุกรานอีกด้วย ด้วยความโดดเด่นของการสร้างสรรค์ของศิลปะแบบ
ไบแซนไทน์เมทิโอร่าจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ใน ปี 1988
3. Bagan
พุกาม เป็นเมืองในประเทศพม่า เคยเป็นที่ตั้งอาณาจักรโบราณพุกาม (1044 - 1287) เป็นอาณาจักร
แห่งแรกในประวัติศาสตร์พม่า ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Division) อยู่ ห่างประมาณ
90 ไมล์ หรือ 145 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
เขตเมืองเก่า (เขตที่ตั้งอาณาจักรพุกาม) เขตเมืองใหม่ (เขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน)
และยองอู (เขตพาณิชยกรรมและเศรษฐกิจ)
มีสนามบินชื่อ สนามบินยองอู เป็นสนามบินประจำเมือง รายได้หลักของเมืองคือ การท่องเที่ยวเชิง
ศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนที่นี่เสมอทุกช่วงปี โดย
เฉพาะนักท่องเที่ยวจากแถบเอเชียด้วยกัน เนื่องจากพุกามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ที่
สวยงามและมีคุณค่า หรือดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง
4,446 องค์
ปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์ น่าเสียดายตอนนี้พุกามเป็นเมืองที่ยังไม่ได้รับการรับรอง
จากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ทั้ง ๆ ที่มีคุณสมบัติเต็มพร้อม ปัจจุบันรัฐบาลทหารพม่า
กำลังพยายามเร่งเสนอชื่อและเตรียมความพร้อมให้เป็น มรดกโลกทางศิลปวัฒนธรรมแห่งต่อไป
2. Leptis Magna
เมืองเลปติส เมกนา ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงทริโปลีในประเทศลิเบียถูก ขนาม นามว่าเป็นอาณาจักร
โรมันที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดในแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันยังคงสภาพ ความรุ่งโรจน์ ด้วยเพราะ
อาณาจักรถูกสร้างโดยหินปูน จึงทำให้ทนต่อการเกิดแผ่นดินไหวนับครั้ง ไม่ถ้วน จุดเด่นของเมืองมิใช่
เพียงแค่ความงาม เท่านั้น แต่ผังเมืองที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่ว่า จะเป็นถนน, อาคารซึ่งถูกประดับ
ตกแต่งอย่างงดงาม, โรงอาบน้ำโรมัน ซึ่งถูกวางผังไว้ในตำแหน่ง เหมาะสม, สภาประชุม, หอประชุม
สำหรับขุนนาง หรือไม่ว่าจะเป็น โรงละคร หรือคอมเพล็กซ์ สำหรับการพักผ่อนเพลิดเพลินของประชาชน
แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักร เลปติส เมกนา ในช่วงเวลา ปี 111 ก่อนคริสต์กาล
จนถึงช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด ปี ค.ศ. 211 โดยกษัตริย์ Septimus Severus อาณาจักรเริ่มเสื่อมสลายใน
ช่วงศตวรรษที่ 4 และท้ายที่สุดโดนทรายแห่ง อาหรับลบเลือนไปจากโลกภายนอก ปัจจุบัน อาณาจักร
เลปติส เมกนา ถูกค้นพบอีกครั้งโดยนัก โบราณคดีชาวยุโรป และยังคงสภาพสมบูรณ์ไว้อย่างชัดเจน
จน องค์การยูเนสโก้ประกาศเป็น มรดกโลกในปี ค.ศ.1982
1. The Library of Celsus
ห้องสมุดเซลซุสตั้ง เมืองเอเฟซุส ประเทศตุรกี ซึ่งเมืองเอเฟซุสเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์มาตั้งแต่สมัย
ปลายยุคโลหะในราวศตวรรษที่ 7 ก่อน คริสตกาล ภายใต้การปกครองของอาณาจักรลิเดีย
เอเฟซุสเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในแถบ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และรุ่งเรืองถึงขีดสุดอีกครั้ง
ภายใต้การปกครองของโรมัน เป็นเมืองใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของจักรวรรดิโรมัน และใหญ่ที่สุดในเขต
เอเชีย...และห้องสมุดเซสซุสก็เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่หลงเหลือ อยู่ในอาณาจักรแห่งนี้
ปัจจุบันเหลือเฉพาะด้านหน้าของอาคารเท่านั้น ห้องสมุดเซลซุส เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างในปี ค.ศ.
114-117 โดย ดิเบริอุส จูลิอุส อาควิลา เพื่ออุทิศให้กับ 'ดิเบริอุส จูลิอุส เซลซุส' ผู้เป็นบิดา โดยฝัง
โลงศพหินเอาไว้ที่ใต้หอสมุดและใช้เป็นแหล่งรวบ รวมความรู้ แสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ในอดีต
ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่
เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพี
ทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรีย และตั้ง
แสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา
ที่มา : Toptenthailand.com