เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก ด.ต.สมศรี สีมา ผบ.หมู่งานจราจร ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์นับ 10 คนล้อมกรอบขณะปฏิบัติหน้าที่เกรงว่าจะได้รับอันตราย เหตุเกิดบริเวณข้างบิ๊กอายโชว์ ซอยเพชรตระกูล พัทยาเหนือ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ต.สัญชัย ถิ่นวงษ์แดง สว.จร. นำกำลังตำรวจสายตรวจและจราจรรีบรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวไทยกว่า 10 คน กระจายกันยืนรายล้อม ด.ต.สมศรี อยู่ แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครยกกำลังไปแบบเต็มพิกัดกว่า 20 นาย ทั้งหมดจึงพากันแตกตื่นวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง และสามารถจับกุมไว้ได้จำนวน 4 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายแสนรัก มีสุธา อายุ 48 ปี นายอัครวัฒน์ รุ่งเรืองกิจก์ อายุ 26 ปี นายมนตรี เชตุใจ อายุ 30 ปี และนายสุริยันต์ คงได้ อายุ 30 ปี ตรวจค้นในตัวนายสุริยันต์ พบตั๋วเก็บค่าจอดรถ 1 เล่ม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม ด.ต.สมศรี สีมา เล่าว่า ก่อนหน้านี้ขณะตนเข้าเวรอยู่ที่ตู้วงเวียนปลาโลมา ได้มีนางวิภาฎา กันเข็ม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 5 ต.รับเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมด้วยสามีชาวต่างชาติและบรรดาญาติๆ ขับรถยนต์มาจอดที่ตู้แล้วแจ้งว่ามีกลุ่มคนคล้ายพวกมาเฟียเรียกเก็บค่าจอดรถยนต์คันละ 60 บาท บริเวณริมถนนข้างบิ๊กอายโชว์ ขณะไปเที่ยวที่ฮาร์ดอินน์ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน และไม่ทราบว่าการเรียกเก็บค่าจอดรถดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังทราบข้อมูลตนจึงเดินทางไปตรวจสอบและพบกับนายแสนรัก มีสุธา ดูแลที่จอดรถดังกล่าวอยู่ ตนจึงบอกด้วยวาจาที่สุภาพว่า ตั้งแต่เสาไฟฟ้าขึ้นมาเป็นถนนหลวง ไม่สามารถเรียกเก็บค่าจอดรถได้เพราะไม่ใช่ที่ดินของเอกชน หากไม่ทราบก็ขอให้รู้ไว้และเลิกพฤติกรรมดังกล่าว
แต่แทนที่เจ้าตัวจะเชื่อฟังกลับให้ลูกน้องไปตามพรรคพวกกว่า 10 คนมาล้อมกรอบ พร้อมกับถามชื่อ-ยศ-ตำแหน่ง และจดทะเบียนรถ จยย.ของตน ในลักษณะข่มขู่คุกคาม ตนเห็นท่าไม่ดีและเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงวิทยุเข้าศูนย์เพื่อขอกำลังเสริม
“ปกติขณะปฏิบัติหน้าที่ ผมจะพูดจาด้วยความนิ่มนวลกับประชาชนตลอด ไม่เชื่อไปถามใครก็ได้ ซึ่งการกระทำของแก๊งขาใหญ่ดังกล่าวถือว่าไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ผมเป็นตำรวจที่อยู่ในเครื่องแบบก็ยังกล้ามาล้อมกรอบ แล้วถ้าเป็นประชาชนคนธรรมดาจะไม่ถูกคุกคามมากยิ่งกว่านี้หรือ” ด.ต.สมศรี กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย เปิดเผยว่า การกระทำของแก๊งเรียกเก็บค่าจอดรถบนทางสาธารณะดังกล่าว ถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา เพราะปกตินักท่องเที่ยวเดินทางมาก็จะนำเงินมาใช้จ่ายในการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว ยังต้องมาเสียความรู้สึกกับกลุ่มคนที่ตั้งตนเป็นมาเฟีย คอยเรียกเก็บเงินค่าจอดรถแบบหน้าด้านๆ อีก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้คดีนี้ผู้เสียหายจะไม่เอาความ แต่ทางตำรวจก็ได้แจ้งข้อหาทั้งหมดว่าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ฯ และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจปัสสาวะทั้ง 4 คน พบว่านายสุริยันต์ กับนายมนตรี มีปัสสาวะสีม่วง และทั้งคู่ยอมรับว่าเสพยาบ้ามา จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด