สภาฯ ลากยาว อภิปรายร่าง พ.รบ.งบฯ 57 ข้ามคืนถึงเช้า เข้า 4 วัน กว่า 50 ชม. ยังไม่จบ

วันที่ 17 ส.ค. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 วาระ 2 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. - 16 ส.ค. วันที่ 3 ใช้เวลาตลอดทั้งคืนผ่านไปได้เพียงไม่กี่มาตรา คือ มาตรา 15 งบประมาณของกระทรวงพลังงาน วงเงินกว่า 2,980 ล้านบาท คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากปรับลดลง 69 ล้านบาท ขณะที่ฝ่ายค้านอภิปรายขอปรับลดลงร้อยละ 5 โดยให้เหตุผลว่า การดำเนินมาตรการต่างๆ ของกระทรวงพลังงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทั้งขาดการบูรณาการ ขาดธรรมาภิบาล และขาดการรักษาผลประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศ โดยเฉพาะการเกิดวิกฤตพลังงานไฟดับทั้งภาคใต้ของไทย ที่กระทรวงพลังงานควรมีมาตรการรองรับอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และมีแผนรองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองไม่ให้เกิดไฟฟ้าดับในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังมีการปรับขึ้นราคาแก๊สแอลพีจี โดยไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการได้ชี้แจงว่า ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแล้ว และที่ประชุมมีมติด้วยคะแนน 292 ต่อ 134 เสียง งดออกเสียง 14 เสียง

 สำหรับมาตรา 16 งบประมาณกระทรวงพาณิชย์ วงเงิน 7,788 ล้านบาทเศษ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ปรับลดลง 116 ล้านบาท ที่ประชุมใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการอภิปรายถกเถียงกัน เมื่อฝ่ายค้านอภิปรายเสนอปรับลดงบประมาณลง โดยให้เหตุผลเรื่องที่รัฐบาลปล่อยให้สินค้าราคาแพง มีปัญหาค่าครองชีพ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียงบประมาณมหาศาล แต่เกษตรกรได้ประโยชน์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยประท้วงเป็นระยะๆ จนประธานในที่ประชุมต้องคอยประนีประนอม และในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขของคณะกรรมาธิการฯ ด้วยคะแนน 292 ต่อ 122 งดออกเสียง 14 เสียง

 จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณามาตรา 17 งบประมาณกระทรวงมหาดไทย วงเงินกว่า 328,755 ล้านบาท และคณะกรรมาธิการปรับลดลง 7,863 ล้านบาท ขณะที่ฝ่ายค้านที่อภิปรายเสนอปรับลดงบประมาณลงร้อยละ 1 โดยให้เหตุผลถึงการดูแลปัญหาภาคใต้ที่มุ่งเน้นส่งคนนอกพื้นที่เข้าไป แทนที่จะนำเงินงบประมาณไปให้คนในพื้นที่ที่เข้าใจพื้นที่ดีกว่าให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และติงเรื่องการไม่กระจายงบประมาณไปสู่ท้องถิ่น 

  นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. สงวนคำแปรญัตติตัดงบมาตรา17 กระทรวงมหาดไทย โดยปรับลด 10 เปอร์เซ็นต์ ก่อนอภิปราย นายองอาจกล่าวต่อที่ประชุมชื่นชมการทำงานของนายเจริญและนายวิสุทธิ์ ที่ผลัดกันทำหน้าที่ประธานการประชุมตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า และเห็นใจการทำหน้าที่ของส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรทำไมวิป 2 ฝ่าย ถึงหาข้อตกลงเรื่องการอภิปรายไม่ได้ จึงทำให้ต้องมีการอภิปรายจนถึงเช้าในเวลานี้ 

 จากนั้น นายองอาจ อภิปรายงบประมาณกระทรวงมหาดไทยในส่วนของแผนการปรองดองฟื้นฟูประชาธิปไตยจำนวนกว่า 70 ล้านบาทผ่านเวทีการสานเสวนา ซึ่งทางกมธ.ได้ตรวจสอบงบฯดังกล่าวไว้มากน้อยแค่ไหน อีกทั้ง การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  นายกรัฐมนตรีได้แถลงเมื่อวันที่ 2ส.ค.ที่ผ่านมาจะตั้งสภาปฏิรูปการเมือง แม้ปชป. ภาคประชาชนและส.ว.บางส่วนไม่เห็นด้วย เพราะไม่เห็นความจริงใจ 

 แต่งบฯดังกล่าวจะใช้ในส่วนนี้ด้วยหรือไม่ เพราะหากกระทรวงมหาดไทยดำเนินการไม่ตรงวัตถุประสงค์หวังผลทางการเมืองใดๆ ตนคิดว่าปัญหาจะเกิดจากการใช้งบฯปี2557 ทั้งนี้ เวทีสานเสวนาไม่ใช่เวทีเพื่อประโยชน์กลุ่มตัวเอง หากเป็นเช่นนั้นนอกจากล้มเหลวแล้วจะทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้

 ทั้งนี้ รวมเวลา 3 วัน จนกระทั่งถึงเวลา 07.00 น. ของวันนี้ สภาใช้เวลาอภิปรายไปแล้วกว่า 50 ชั่วโมง เพิ่งพิจารณาได้ 17 มาตรา โดยวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านพยายามจะอภิปรายให้จบภายในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการอภิปราย

  โดยเวลา 08.45 น. ประธานได้สั่งพักประชุม 5 นาที หลังสมาชิกต่างฝ่ายต่างประท้วงกันไปมา ในช่วงการพิจารณางบฯ มาตรา 17 ของกระทรวงมหาดไทย

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...