พ.ต.ท.สุพรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 15 ส.ค. สภ.น้ำโสมได้รับแจ้เหตุยิงกันที่กระท่อมกลางสวนยางพารา ม.7 บ้านนาเมืองไทย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดนัย สาริบุตร ผกก.พ.ต.ท.นำชัย ศรีเวียง รอง ผกก.ปป.พ.ต.ท.เอกกฤต กัลยานุสนธ์ รอง ผกก.สส. นำกำลังไปที่เกิดเหตุทราบว่าผู้ถูกยิง คือ นายบัวทอง น้อยมะลิ อายุ 43 ปี ถูกยิงด้วยปืนแก๊ปเข้าที่หน้าอกหลายแผล มีแผลหนึ่งใหญ่เท่าลูกปิงปอง ญาติๆ นำขึ้นรถกระบะส่ง .พ.น้ำโสม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุพบแต่นางบุญมี น้อยมะลิ อายุ 45 ปี ภรรยานายบัวทอง
นางบุญมี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีการประมูลขี้ยางถ้วย พวกตน 3 คน คือ ตน ผู้ตาย และน.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสะใภ้ ซึ่งเป็นภรรยานายเอ ลูกชายคนเดียวของตนและผู้ตาย ช่วยกันเก็บขี้ยางในสวนยางพาราเนื้อที่ 30 ไร่เศษเพื่อนำไปขายที่ลานประมูล โดยนายเอ หลบไปนอนอยู่ในกระท่อม ทำให้นายบัวทองไม่พอใจ เรียกให้มาช่วย แต่นายเอไม่มา หลังจากพวกตนเก็บขี้ยางใส่รถกระบะ เพื่อนำไปขาย โดย น.ส.บี นำลูกสาววัย 2 เดือนไปด้วย ทำให้นายเอ ไม่ยอมให้ไป พร้อมโวยวายแสดงอาการโกรธเตะฝากระท่อม นายบัวทองจึงเอาไม้ยางไปตีนายเอ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด นายบัวทอง ล้มกลิ้งตกลงมาข้างล่าง ตนพร้อมญาติจึงช่วยกันยกร่างขึ้นรถกระบะไปส่งที่ ร.พ.น้ำโสมและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายเอ หลังเกิดเหตุได้ขับรถ จยย.หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้าน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาจับกุมไปสอบสวนที่ สภ.น้ำโสม
จากการสอบสวนนายเอ ให้การปฏิเสธโดยไม่สะทกสะท้านว่า ไม่ได้เป็นคนยิงผู้เป็นพ่อแต่อย่างใด เพียงแต่พ่อแย่งอาวุธปืนแล้วปืนลั่นขึ้นเอง และยังกล่าวว่า ตนกับพ่อทะเลาะกันเป็นประจำ ส่วนอาวุธปืนทิ้งไว้บริเวณกระท่อม
พ.ต.ท.สุพรรณ เปิดเผยว่า ถึงนายเอ จะให้การปฏิเสธ แต่จากสอบสวนและตรวจสอบตามร่างกายพบร่องรอยเขม่าดินปืน เป็นหลักฐานยืนยัน
จากนั้น พ.ต.ท.สุพรรณ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบบริเวณรอบนอกกระท่อม พบอาวุธปืนแก๊ปในพงหญ้า จึงนำตัวตัวนายเอ พร้อมด้วยอาวุธปืนแก๊ปของกลางให้ร้อยเวรเจ้าของคดี สภ.น้ำโสม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป