เจ้าสาวแจ้งจับเจ้าบ่าวเบี้ยวสินสอด เงินสด3แสน-ทอง10บาท เผ่นหนียังไม่ทันเข้าหอ

เจ้าสาวฉุนฝ่ายชายเบี้ยวสินสอด สู่ขอไว้ 3 แสน ทอง 10 บาท ถึงวันแต่งมาคนเดียวไม่มีทั้งญาติผู้ใหญ่และสินสอด หลังเสร็จพิธีแต่ง-งานเลี้ยง พอถูกทวงถามก็หนีไปเลย เพิ่งตามตัวเจอ โดยฝ่ายชายบอกจะมาชดใช้ให้ภายหลัง แต่ฝ่ายหญิงรู้สึกอับอายจากสิ่งที่เกิด แถมยังเสียเงินค่าจัดเลี้ยงไปสามแสนกว่าบาท เลยเข้าแจ้งความที่ สภ.ลาด หลุมแก้ว ปทุมธานี ด้านตร.ระบุเป็นคดีแพ่งต้องไปฟ้องศาลกันเอง 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี น.ส.ปัญฑ์ณัฐ อยู่ทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/21 ม.3 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.สุพิตร โคนพันธ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว ให้ดำเนินคดีกับนายสมศักดิ์ มาเสมอ อายุ 34 ปี ว่าที่เจ้าบ่าว ปฏิเสธให้สินสอดตามที่ตกลง โดยบอกว่าจะมาชดใช้ให้ในภายหลัง จึงได้มาแจ้งความที่ สภ.ลาด หลุมแก้ว 

น.ส.ปัญฑ์ณัฐกล่าวว่า พ่อแม่ของตนเลิกกันไปตั้งแต่อายุได้เดือนเศษ โดยมีนายม้วน อยู่ทอง ผู้เป็นปู่เลี้ยงดูมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมานายสมศักดิ์ได้พาพ่อ คือนายสมาน มาเสมอ มาสู่ขอ และได้ตกลงกันค่าสินสอดเป็นเงินสดสามแสนบาท และทองคำหนัก 10 บาท กำหนดจัดพิธีแต่งงานกันในวันที่ 11 ส.ค. ที่หอประชุมโรงเรียนบัวแก้วเกสร จ.ปทุมธานี จึงได้จัดพิมพ์การ์ดงานแต่งงาน เชิญแขกเลี้ยงโต๊ะจีน 35 โต๊ะ ก่อนถึงวันงานแต่งฝ่ายชายได้นำเงินหมื่นห้าพันบาทมาให้ตนจัดซื้อขนมพิธีขันหมาก ส่วนการจัดงานเลี้ยงแต่งงานทั้งหมด ตนเสียค่าใช้จ่ายไปกว่าสามแสนบาท 

"ในวันที่แต่งงานเจ้าบ่าวมาตัวคนเดียว โดยอ้างว่าตามหาพ่อไม่เจอ เลยไม่มีเงินขันหมากมาให้ จึงแก้หน้าเอาสมุดบัญชีธนาคารที่เหลือเงินอยู่ไม่กี่ร้อยบาทใส่ในขันหมาก และดำเนินการพิธีรับไหว้แขกผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงข้างเดียว เพื่อไม่ให้อับอายชาวบ้านที่ได้มาร่วมงานจำนวนมาก" น.ส.ปัญฑ์ณัฐกล่าว

น.ส.ปัญฑ์ณัฐกล่าวอีกว่า พอถึงเวลาช่วงเย็นเจ้าบ่าวก็ร่วมในงานเลี้ยงโต๊ะจีนจนเสร็จเมื่อเวลาสี่ทุ่มเศษ หลังงานเลิกกลับมาที่บ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านเสริมสวยอยู่ในตลาดระแหง ก็ได้พูดคุยเรื่องเงินสินสอดที่ฝ่ายชายอ้างว่าติดต่อพ่อแม่ไม่ได้ จะทำอย่างไรกันต่อไป ทำให้ฝ่ายชายไม่พอใจ และได้หลบหนีไปตั้งแต่คืนแต่งงาน จนถึงวันนี้ตนเพิ่งได้ติดต่อฝ่ายชายได้ แต่ก็ยังถูกปฏิเสธเรื่องเงินค่าสินสอด โดยนายสมศักดิ์บอกจะมาชดใช้ค่าจัดงานให้ในภายหลัง จึงได้มาแจ้งความ และจะฟ้องร้องฝ่ายชายที่ทำให้อับอายขายหน้า และหมดเงินไปกับการจัดงานแต่งกว่าสามแสนบาท

พ.ต.ท.สุพิตรกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคดีแพ่ง จะต้องไปฟ้องร้องชั้นศาล ส่วนทางโรงพักจะลงประจำวันเป็นหลักฐานไว้ให้

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...