จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมณีไลย องค์มกุฎราชกุมารี หรือ เจ้ามะนีไล สว่าง (ประสูติ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2484 —) หรือที่ชาวหลวงพระบางรู้จักในชื่อ "เจ้าป้า"พระวรชายาในสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมาร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรลาว
พระประวัติ
จ้าฟ้าหญิงมณีไลย ประสูติเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ณ เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว มีพระนามเดิมว่า มณีไลย ปัญญา เป็นพระธิดาในองค์เสด็จเจ้าฟ้าชายคำพรรณปัญญา กับหม่อมชาวเมืองปากลายไม่ปรากฏนาม โดยพระชนกของพระองค์เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ กับหม่อมคำหล้า เจ้าหญิงมณีไลยทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนประถมหลวงพระบาง และโรงเรียนลิเซปาวี ในนครหลวงพระบาง และได้ศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ
อภิเษกสมรส
เจ้าฟ้าหญิงมณีไลยได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมาร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา กับพระอัครมเหสีคำผูย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2505[2] มีพระโอรส-ธิดาด้วยกัน 7 พระองค์ แบ่งเป็นพระโอรส 5 พระองค์ และพระธิดา 2 พระองค์ ได้แก่
เจ้าชายสุลิวง (สุริวงศ์, ประสูติ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 —) ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ลาวองค์ปัจจุบัน สมรสกับเจ้าจันทร์ศุกร์ สุขธารา ปัจจุบันประทับในฝรั่งเศส
ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 พระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาทรงสละราชบัลลังก์ ก่อนการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 1 อาทิตย์ โดยฝ่ายปะเทดลาวได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงการปกครองเหล่าพระราชวงศ์ทรงถูกส่งไปจองจำที่ค่ายสัมมนาในแขวงหัวพัน ทางภาคเหนือของประเทศ ภายในค่ายสัมมนาคือค่ายกักกันสร้างความยากลำบากสำหรับเหล่าพระราชวงศ์ จนกระทั่งสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่าง องค์มกุฎราชกุมาร พระภัสดาของพระองค์ได้เสด็จสวรรคตลงเสียก่อนที่ศูนย์สัมมนาหมายเลข 5 เมืองเวียงไซ แขวงหัวพัน ในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2524 ต่อมาพระนางคำผูยก็สิ้นพระชนม์ในวันที่12 ธันวาคม พ.ศ. 2524 สิริพระชนมายุ 69 พรรษา ภายในค่ายสัมมนาที่หมู่บ้านสบฮาว ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา เสด็จสวรรคตในปีพ.ศ. 2521 หรือ พ.ศ. 2527 ไม่แจ้งชัดนัก แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อว่าสิ้นพระชนม์เนื่องจากการขาดสารอาหาร ส่วนพระองค์เองก็ทรงตกระกำลำบากอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า "ซิ่นขาดคาขา" แต่พระองค์ก็รอดพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้
เหตุการณ์หลังการเปลี่ยนแปลง
หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ต่างๆแล้ว ทางการจึงได้มีการปล่อยตัวให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติที่เมืองหลวงพระบางแต่ก็มีผู้คอยสอดแนมทุกฝีก้าวอยู่เสมอพระโอรสของพระองค์สองพระองค์ คือ เจ้าสุลิวงและเจ้าทันยะวง ได้หนีออกจากประเทศลาว โดยเจ้าสุลิวงทำทีเป็นแจ้งกับทางการว่า ไม่สบายต้องไปรักษาที่เวียงจันทน์ เจ้าหน้าที่ก็ยอม พอถึงเวียงจันทน์ก็ติดต่อบรรดาอดีตเจ้านายเก่าของลาวให้พระโอรสพาข้ามแม่น้ำโขง โดยการนั่งเรือออกจากเวียงจันทน์ในเวลาค่ำคืน ถึงฝั่งไทยหลังจากสอบสวนกันเรียบร้อยแล้วก็มีคนพาไปหลบซ่อนตัวในที่ปลอดภัยก่อนที่ส่งต่อไปยังฝรั่งเศส และเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ลาวคนปัจจุบัน
ในปัจจุบันเจ้าหญิงมณีไลยทรงดำเนินชีวิตเยี่ยงสามัญในบ้านหลังเล็กในเมืองหลวงพระบาง และชาวหลวงพระบางเองก็เรียกขานพระองค์ว่า "เจ้าป้า"ทรงมีร้านอาหาร คือ ร้านสกุณา ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงพระบาง ทรงมีโอกาสพบปะพระโอรสธิดาได้ไม่บ่อยครั้งนัก เนื่องจากลูกหลานไปประทับต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ ประกอบกับพระองค์ไม่สะดวกที่จะเดินทางออกจากลาว อย่างมากพระองค์ก็เสด็จมาพบแพทย์ของโรงพยาบาลในจังหวัดอุดรธานีเป็นครั้งคราวเท่านั้น