“บิ๊กแจ๊ด”จวกเลิกหากินกับศพเอกยุทธ ซัดไม่เคยโผล่เยี่ยมผู้ต้องหา

 

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังนั้น ล่าสุดยังไม่มีมีหนังสือชี้แจงการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ส่งมาให้ตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้ คดีนี้มีพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. และพล.ต.ต.อนชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. เข้ามาคุมการสอบสวนสำนวนคดีอย่างใกล้ชิด ส่วนใครที่พูดอะไรต่างๆ เกี่ยวกับคดี อยากจะให้มาให้การกับตำรวจ เพื่อให้หลักฐานและการตรวจสอบอยู่ในสำนวนการสอบสวนด้วย


“ที่ระบุว่ามีการจ้างกันอย่างไร ฆ่ากันด้วยท่าพิเศษ ผมยังไม่เข้าใจเลยว่าท่าพิเศษคืออะไร อยากให้เข้ามาคุยกันกับทางตำรวจ จะได้รวบรวมหลักฐานร่วมกัน จะได้ส่งสำนวนไปยังอัยการ ยืนยันว่าไม่ได้รีบสรุปสำนวนคดี ยืนยันว่าส่วนตัวผมรู้สึกสงสารนายเอกยุทธ หากมาแจ้งตำรวจเร็วกว่านี้ไม่เกิน 24 ชั่วโมงตำรวจช่วยได้แน่นอน ขณะนี้ไม่รู้ว่าตายไปแล้ววิญญาณนายเอกยุทธจะสงบสุขหรือไม่ เพราะทุกวันนี้หลายคนเอาชื่อนายเอกยุทธมาหากิน มาหาชื่อเสียงจากศพ ซึ่งไม่ถูกต้อง ญาติพี่น้องของนายเอกยุทธก็ยังไม่เห็นออกมาพูดอะไรเลย ผมอยากให้คนที่ออกมาพูดมาให้ข่าวทั้งหมดเข้ามาให้การกับตำรวจ รวมถึงมาร่วมเป็นพยานด้วย อย่าดีแต่พูด” ผบช.น. กล่าว
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความนายเอกยุทธ ระบุว่า นายสันติภาพ เพ็งด้วง ผู้ต้องหากลับคำให้การว่าไม่ได้เป็นคนฆ่านายเอกยุทธ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่รู้เรื่อง แต่ขอให้เข้ามาให้การ เข้ามาหาตำรวจ จะได้นำข้อมูลที่ได้มาอยู่ในในคำให้การของสำนวนคดี อย่ามาดีแต่พูดไปวันๆ คนตายขนาดนี้ ตำรวจก็ทำงานแล้ว ได้ศพเร็ว ได้ผู้ต้องหาเร็ว หลักฐานก็มี ยังถูกกล่าวหาว่าผิดอีก อยากขอร้องให้หยุดพูดดีกว่า
 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ดูแล้วเหมือนคดีของนายเอกยุทธโยงการเมืองหรือไม่ เพราะเรื่องไม่จบเสียที พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องการเมืองแน่นอน แต่ใครจะหากินหาผลประโยชน์จากศพก็ทำไป แต่ขอให้นึกถึงจิตใจญาติของนายเอกยุทธด้วย คนตายไปแล้วยังต้องมาเป็นประเด็นอีก เรื่องแบบนี้ไม่เข้าท่า


ต่อมา เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ได้แถลงข่าวพร้อมโชว์หลักฐานซัดกลับ กรณีที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ออกมาระบุว่านายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง กลับคำให้การรับสารภาพ โดยกล่าวว่าได้รับการว่าจ้าง 3 ล้านบาท ให้สังหารนายเอกยุทธ แต่ทำไม่สำเร็จ จึงต้องใช้มืออาชีพโดยกลุ่มคนมีสี ว่า ตนจะมอบหมายให้ พล.ต.ต.อนุชัย ซึ่งดูแลสำนวน เป็นผู้ชี้แจงกับสื่อมวลชนให้ชัดเจนว่านายบอลให้การอย่างไรบ้าง มีใครไปจ้าง หรือเยี่ยมบ้างหรือไม่
 

โดยพล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า เมื่อเช้านี้ ผบช.น.ให้พนักงานสอบสวน เข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบปากคำนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง ตามประเด็นที่มีการกล่าวอ้าง  โดยขอตอบเป็นข้อๆ ข้อแรกนายบอล ยืนยันว่า ตั้งแต่ถูกจับกุม ควบคุมและฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีแต่พ่อ แม่ และทนายความของนายสันติภาพเท่านั้นที่เข้าไปเยี่ยม ส่วนนายสุวัตร อภัยภักดิ์ (อดีตทนายความนายเอกยุทธ) หรือผู้แทนของนายสุวัตร ไม่เคยมาเยี่ยม หรือพูดคุยกับนายสันติภาพแต่อย่างใด กล่าวโดยสรุปคือ 1.ไม่เคยมีผู้แทนของนายสุวัตรมาพบ 2.นายบอลยืนยันว่าไม่เคยพูด ว่ามีคนมาจ้างให้ฆ่าผู้ตาย โดยจะให้ค่าจ้าง 3 ล้านบาทตามที่ว่า ไม่ว่าจะพูดจริงและพูดเล่น ก็ไม่เคย 3.ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ว่าสันติภาพกลับคำให้การ ทางพนักงานสอบสวนได้อ่านให้ฟังอย่างครบถ้วน นายสันติภาพยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด และไม่เคยพูดข้อความดังกล่าว และเนื้อความในหนังสือพิมพ์ที่ให้อ่านนั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง


“เบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้วเขายืนยันว่ารายชื่อบุคคลที่จะเข้าไปในเรือนจำนั้น ต้องมีหลักฐาน ซึ่งเมื่อตรวจสอบไม่มีรายชื่อผู้แทนหรือนายสุวัตร เข้าไปเยี่ยม สุดท้ายนายบอลได้ขอว่า ขอยืนยันคำให้การเดิมทุกประการ และได้กระทำผิดจริงตามที่ให้การกับพนักงานสอบสวน พร้อมได้นำชี้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้ว เพื่อประโยชน์ของการสอบสวน ใช้ในการพิจารณาของศาล เพื่อประโยชน์ในการบรรเทาโทษ จึงขอให้อย่ามาถามในเรื่องต่างๆเหล่านี้อีก ขอให้ผู้ที่หาประโยชน์กับเขาอย่าไปรบกวนเขาอีก อยู่ในนั้นเขาจะได้กลับตัวกลับใจสำนึกผิด และหากมีโอกาสได้ลดหย่อนบ้างก็อาจจะได้กลับมาเป็นพลเมืองดี เพราะฉะนั้นก็ขอร้องว่า ใครก็ตามอย่าไปหาประโยชน์จากเขาอีกเลย เขาได้ขอร้องมามีการเซ็นชื่อต่างๆไว้เรียบร้อย ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เรือนจำ” พล.ต.ต.อนุชัย กล่าว
 

เมื่อถามว่าจะมีการสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ นั้น พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ทางผบช.น.ก็เร่งรัด ให้สรุปให้ได้ในสัปดาห์นี้ การสอบสวนจะเรื่อยเปื่อยไม่ได้ เพราะต้องมีระยะเวลาการฝากขัง ขณะนี้ฝากขังครั้งที่ 6 แล้ว และเราต้องสรุปส่งอัยการ อย่างไรก็ดี ระหว่างนี้หากพบมีพยาน หลักฐานเพิ่มเติม ก่อนมีคำพิพากษาก็เพิ่มเติมได้


เมื่อถามว่ายืนยันว่าไม่ได้รับหนังสือของกรรมการสิทธิฯ พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ไม่มี ทราบจากทางหนังสือพิมพ์ ที่ผ่านมาตนก็ได้ให้รายละเอียดไปแล้ว ว่าพร้อมรับพยาน หลักฐานต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน เราพร้อมตลอดเวลา เรื่องนี้ก็อยู่ที่ความตั้งใจว่าจะร่วมมือกับเราหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราทำไปตามระบบที่ทำงานกันมา รวบรวมหลักฐาน เพื่อนำคนผิดได้รับโทษ ตนไม่อยากเป็นประเด็นไปตามที่ชักนำกันไป มันไม่เกี่ยวกับพนักงานสอบสวน เราว่าไปตามกฎหมาย ว่าไปตามระเบียบ ว่าไปตามพยานหลักฐาน ที่พูดกันมา เป็นประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ขอให้ตำรวจได้ทำหน้าที่ไปตามกระบวนการยุติธรรม เดี๋ยวจะมีอัยการ มีศาลมาร่วมพิสูจน์อีก เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งไปพิพากษาตอนนี้เลย
 

เมื่อถามว่านายสุวัตรได้ขอยุติบทบาทการเป็นทนายความคดีของนายเอกยุทธแล้ว แต่กลับมาพูดว่านายสันติภาพกลับคำให้การ จะเป็นการโยงเรื่องการเมือง หรือดิสเครดิตเจ้าหน้าที่หรือไม่ หรือมีเหตุผลอื่นแอบแฝง จึงออกมาพูด พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า คงต้องไปถามนายสุวัตร เมื่อตั้งข้อสังเกตมา มีความคลางแคลงสงสัย ทาง ผบช.น.ก็สั่งการให้ทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนเหตุผลที่จะพูดอย่างไร ก็ต้องไปถามคนที่พูด

 

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบความจริงจนปรากฏแล้ว จะมีการพูดคุยกับนายสุวัตรหรือไม่ว่าเหตุใดจึงออกมาพูด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ไม่คุย เพราะทางนายสุวัตร จะพูดอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา ตนก็เพิ่งทราบจากสื่อมวลชนว่าทนายสุวัตร ไม่ยุ่งเกี่ยวถอนตัวจากคดีนี้แล้ว เพราะฉะนั้นคงไม่ติดต่อไป แต่เมื่อออกตามสื่อ ก็ให้ไปสอบปากคำนายสันติภาพใหม่ และนายสันติภาพก็ยืนยันเช่นเดิม เพราะหลักฐานชัดเจน ไม่จำเป็นต้องประสานให้นายสุวัตรทราบ ตำรวจก็ทำสำนวนไป  ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายสุวัตรบอกว่ามีคนโทรศัพท์มาข่มขู่ ก็ไม่ได้ประสานมาให้ปากคำหรือขอความช่วยเหลือ แต่นายสุวัตรเคยโทรศัพท์มาหาเมื่ออาทิตย์กว่าๆ ว่าถอนตัวจากคดีนี้แล้ว ก็ไม่ได้คุยเรื่องอื่น
 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...